ชัดเจนแล้ว! เงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” เริ่มใช้ พ.ค.ปี 67 หมดเขต เม.ย.ปี 70

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ชัดเจนแล้ว! เงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” เริ่มใช้ พ.ค.ปี 67 หมดเขต เม.ย.ปี 70

Date Time: 10 พ.ย. 2566 15:32 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • เช็กด่วน! สรุป เงื่อนไขและรายละเอียดโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท หรือ ดิจิทัลวอลเลต นายกฯ ประกาศ มีคนได้รับสิทธิ 50 ล้านคน ตัดเกณฑ์ตามรายได้ต่อเดือน และ เงินฝาก กำหนด เริ่มโอนเงินดิจิทัล พ.ค.ปี 2567 และ หมดเขต เม.ย.ปี 2570 ระบุชัด ใช้ เงินดิจิทัลใช้จ่ายอะไรได้บ้าง?

Latest


ไม่ต้อง งง! สรุปให้แล้ว...เรียกว่าสิ้นสุดการรอคอย สำหรับรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หรือ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง? หลังจาก ช่วงสายวันนี้ (10 พ.ย. 2566) นายกรัฐมนตรี ถกด่วน นั่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet 

ก่อน 14.00 น. นัดแถลงใหญ่กับสื่อมวลชน ตอบชัดทุกข้อคำถาม กับนโยบายเรือธง ที่ถอยไม่ได้ เพราะหาเสียงไว้หนัก แม้จะได้รับแรงเสียด ต่อต้านทุกทิศทาง จากทั้งนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ฯล รวมไปถึง ประสบกับปัญหาหาแหล่งเงิน สำหรับนโยบายที่ต้องใช้งบประมาณมากถึง 5.6 แสนล้านบาท 

“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่า โครงการนี้ไม่ได้เป็นแค่ความฝัน แต่กำลังเป็นความจริง โดยล่าสุด รัฐบาลได้หาข้อสรุปที่ดีที่สุด ผ่านการเติมเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ มูลค่า 5.6 แสนล้าน แบ่งเป็น เพื่อโครงการเงินดิจิทัล 5 แสนล้านบาท ครอบคลุมสิทธิคนไทย 50 ล้านคน ส่วนอีกส่วน จะใช้เพื่อกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ แต่ทั้งนี้ ยังต้องผ่านกระบวนการทบทวนตรวจสอบ และข้อกำหนดทางกฎหมาย ก่อนสรุปผลเบ็ดเสร็จอีกครั้งหนึ่ง 

ซึ่งหลังจาก รัฐบาลได้รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากหลายๆ ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น จาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒน์ฯ นักเศรษฐศาสตร์ และ นักวิชาการต่างๆ ทำให้นำมาสู่ การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของโครงการเงินดิจิทัล เพื่อให้เหมาะสม รัดกุมยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ดังต่อไปนี้ 

สรุปรายละเอียด และ เงื่อนไขใหม่ "โครงการเงินดิจิทัล" ล่าสุด (อัปเดต 10 พ.ย.2566)

  • คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน หรือ มีเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท (รวม 50 ล้านสิทธิ)
  • โอนเงินดิจิทัลครั้งแรก เริ่ม พ.ค.ปี 2567 / หมดเขต เม.ย.ปี 2570 
  • ผู้ที่ได้สิทธิรับเงินดิจิทัล ต้องใช้จ่ายครั้งแรกในระยะเวลา 6 เดือนหลังโครงการเริ่ม
  • เงื่อนไขใช้จ่ายเงินดิจิทัล ขยายพื้นที่จากรัศมี 4 กิโลเมตร เป็นการใช้จ่ายครอบคลุมระดับอำเภอ ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านของบุคคลนั้นๆ 
  • โครงการนี้ ต้องมีการลงทะเบียนรับสิทธิ ทั้งร้านค้าและยืนยันรับสิทธิโดยประชาชน 
  • เงินดิจิทัล มีค่า เท่ากับเงินบาท ไม่ใช่คริปโตฯ และ ไม่สามารถนำไปเทรดในกระดานต่างๆ ได้ 
  • เงินดิจิทัล สามารถใช้ซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค บริโภคได้เท่านั้น 
  • ไม่สามารถนำเงินดิจิทัล ใช้จ่ายกับการบริการได้ (เช่น ตัดผม/ล้างรถ)
  • ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ได้ 
  • ไม่สามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม และผลิตภัณฑ์จากกัญชาและพืชกระท่อม กระท่อม 
  • ไม่สามารถนำไปซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณีได้ 
  • เงินดิจิทัล ใช้หนี้ไม่ได้ 
  • ไม่สามารถจ่ายค่าเรียน ค่าเทอมได้ 
  • ไม่สามารถนำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
  • เงินดิจิทัล ซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ ไม่ได้ 
  • แลกเป็นเงินสดไม่ได้ แลกเปลี่ยนในตลาดต่างๆ ไม่ได้ 
  • ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล ไม่จำกัดว่าต้องอยู่ในระบบภาษี ไม่จำเป็นต้องจด VAT แต่ต้องมีการลงทะเบียนรับสิทธิ 
  • ใช้ระบบแอปเป๋าตัง ของกรุงไทยเป็นหลัก 

“ผมขอประกาศว่า โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะเปิดใช้เดือน พ.ค.ปี 2567 โดยจะพัฒนาต่อยอด จากระบบแอปฯ เป๋าตัง ที่มีฐานคนลงทะเบียนแล้ว 40 ล้านคน และมีร้านค้าร่วมอยู่ 1.8 ล้าน ร้านค้า เนื่องจากมีความพร้อมด้านเทคโนโลยี จะช่วยประหยัดงบประมาณ ลดเวลา และ ลดความซ้ำซ้อน ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะพัฒนาระบบบล็อกเชนเป็นเบื้องหลังร่วม เพื่อใช้ตรวจสอบการทุจริต และนำไปสู่ การพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป"

แจงที่มาของเงิน ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 

ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้ชี้แจงรายละเอียดที่มาของงบประมาณโครงการด้วยว่า คำตอบที่เป็นไปได้มากที่สุดในการดำเนินนโยบายนี้ คือการออก พ.ร.บ.เป็นวงเงิน 500,000 ล้านบาท ซึ่งมีความโปร่งใส ภายใต้การตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภา ซึ่งตนมั่นใจว่า จะได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภา และเป็นไปตามมาตรา 53 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

พ.ร.บ.การกู้เงินดังกล่าวจะระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ในโครงการ Digital Wallet ให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และรัฐบาลจะทำการกู้เงิน ก็ต่อเมื่อ มีการนำเงินไปใช้และนำมาขึ้นเป็นเงินสด 

ซึ่งนี่จะเป็นการทำให้เงินในระบบทั้งหมดใหญ่ขึ้นกว่า 500,000 ล้าน ซึ่งจะหมุนเวียนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัย ผสมกับงบประมาณ 100,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการที่กล่าวไปทั้งหมด ทุกท่านไม่ต้องห่วงเรื่องของการใช้เงินคืน รัฐบาลจะมีแผนจัดสรรเงินงบประมาณมาเพื่อจ่ายคืนเงินส่วนที่เป็นเงินกู้ตลอดระยะเวลา 4 ปี


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ