100,000 ล้านบาท คือ มูลค่าลงทุนสะสม ในอสังหาฯ ภูเก็ต ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ แม้จะมีข่าวออกมาเรื่อยๆ ว่า ปัจจุบัน จังหวัดภูเก็ต กำลังเป็นที่หมายตา ของชาวต่างชาติอย่างมาก ทั้งเข้ามาอยู่อาศัย และลงทุน จนส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ มีแนวโน้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ตัวเลขดังกล่าว อาจไม่สิ้นสุดเท่านี้
ล่าสุด “ภัทรชัย ทวีวงศ์” นักวิจัยอสังหาฯ ชื่อดัง ฐานะผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เผยกับ ThairathMoney ว่า จากความคึกคักของจำนวนนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ ที่เดินทางเข้าสู่เกาะภูเก็ตเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่มากกว่า 6 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย จีน และคาซัคสถานนั้น ทำให้ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต ในทุกพื้นที่ คึกคักอย่างมาก
โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการของผู้พัฒนาที่ดินรายใหญ่ เช่น บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้, บมจ.ศุภาลัย, บมจ.แสนสิริ, บมจ.แอสเซทไวส์ และ เจ้าถิ่น โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต
ทำให้มีโครงการเปิดขายใหม่ ทั้งในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศ มากที่สุดในรอบ 15 ปี ด้วยมูลค่าลงทุนมากกว่า 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ 15 โครงการ จำนวน 6,831 ยูนิต มูลค่าการลงทุน 37,880 ล้านบาท ขณะพักตากอากาศในภูเก็ต พบเปิดขายใหม่รวม 37 โครงการ จำนวน 589 หลัง ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 53,230 ล้านบาท
คอลลิเออร์สฯ เผยต่อว่า ที่ผ่านมา “บ้านพักตากอากาศ” ในเมืองไทยค่อนข้างได้รับความสนใจจากกลุ่มเศรษฐีทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะทำเลจังหวัดภูเก็ต เป็นตลาดที่ได้รับความสนใจซื้อสำหรับกลุ่มนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติอย่างมาก โดยเฉพาะชาวรัสเซีย
โดยบ้านพักตากอาศในปีนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านเชิงทะเล ตามแนวชายหาดเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ย่านหาดบางเทา หาดสุรินทร์ หาดลายัน และเชิงทะเล ซึ่งอยู่ในอำเภอถลาง รองลงมาคือ อำเภอเมืองภูเก็ต บริเวณ อ่าวฉลอง หาดราไวย์ และอำเภอกะทู้ หาดกมลา และป่าตอง
สำหรับแนวโน้มในอนาคต คาดการณ์ว่าทำเลที่ผู้พัฒนาจะสามารถพัฒนาบ้านพักตากอากาศ ขายได้ในระดับราคา 25-50 ล้านบาทได้นั้น อาจต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างจากชายหาดมากขึ้น เพราะต้นทุนราคาที่ดินไม่สูง และมีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย
เนื่องจากในปัจจุบันที่ดินริมทะเลเริ่มหายากและมีราคาที่สูงมาก บวกกับการปรับตัวของราคาที่ดินในพื้นที่เกาะภูเก็ตในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
สำหรับโปรเจกต์ที่น่าจับตามองในช่วงโค้งสุดท้ายของปี คือ แผนของผู้พัฒนารายใหญ่ เช่น บมจ.ไรมอน แลนด์ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ วิลล่าระดับอัลตราลักชัวรี่ ในพื้นที่ย่านกมลา โดยมีราคาเริ่มต้นหลังละ 600 ล้านบาท แพงสุดอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท บนที่ดินรวม 23 ไร่
รวมไปถึง กลุ่มฮาบิแทท กรุ๊ป ที่เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่เกาะภูเก็ตทั้งในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านพักตากอากาศ ภายใต้คาดการณ์ว่า ในไตรมาสสุดท้าย จะมีโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านพักตากอากาศรอการเปิดตัวอีกมากกว่า 1,200 หน่วย ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 10,000 ล้านบาท