นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เปิดบริการ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” เพื่อเป็นช่องทางรับแจ้งเบาะแสการหลอกลงทุนโดยตรง โดยโทร.1207 แล้วกด 22 หรือแจ้งผ่านระบบรับแจ้งบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th/scamalert) หรืออีเมล scamalert @sec.or.th โดยสำนักงาน ก.ล.ต.จะเร่งตรวจสอบเบาะแสที่ได้รับ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปิดกั้นเนื้อหาหรือช่องทางการหลอกลงทุน
“ปัจจุบันการหลอกลงทุนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มิจฉาชีพมักใช้ช่องทางออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย หลอกลวงประชาชนด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งโฆษณาชวนเชื่อให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีอยู่จริง ล่อลวงด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง หรือการแอบอ้างใช้ภาพ และชื่อของผู้บริหารของหน่วยงานในตลาดทุนมาชักชวนให้ลงทุน เป็นต้น ซึ่งการเปิดสายด่วนแจ้งหลอกลงทุนนั้น มีจุดประสงค์สร้างความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อต่อต้านมิจฉาชีพ”
นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับบริษัท Meta (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการ Facebook และ Instagram รวมทั้งบริษัท LINE (ประเทศไทย) ปิดกั้นช่องทางของมิจฉาชีพในแพลตฟอร์มดังกล่าวโดยเร็ว ซึ่งเบื้องต้นกำหนดอย่างช้าภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มขึ้นกับประชาชน รวมถึงยังประสานศูนย์ Anti Online Scam Operation Center (AOC) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อช่วยปิดเว็บไซต์หลอกลงทุนและอายัดบัญชี โดยมีเป้าหมายปิดบัญชีม้า หรือบัญชีเงินฝากที่คนร้ายใช้รับเงินให้ได้โดยเร็ว เพื่อระงับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน
สำหรับสถิติรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ต.ค.66 พบว่า มีการขึ้นเตือนบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. ในหัวข้อ Investor Alert เพื่อให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบรายชื่อแล้วกว่า 265 ราย และประสานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดีอีเอส เพื่อออกข่าวเตือนประชาชนแล้ว 90 กรณี ส่วนการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานเกี่ยวกับการหลอกลงทุนที่แอบอ้างชื่อและโลโก้ หรือภาพผู้บริหารของ ก.ล.ต. มี 10 กรณี รวมถึงส่งเรื่องให้สำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายภายใต้ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 กรณีอ้างผลตอบแทนสูง 163 ราย และส่งเรื่องให้ดีอีเอสดำเนินการแล้ว 85 กรณี
ด้านนายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า การเปิดช่องทางสายด่วนแจ้งหลอกลงทุนของ ก.ล.ต.นั้น สอดรับกับการเปิดศูนย์ AOC 1441 เพื่อให้มีการบูรณาการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ให้บริการแบบ one stop service แก่ประชาชน รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับภัยออนไลน์ เพื่อระงับและอายัดบัญชีของคนร้ายให้ทันท่วงที รวมทั้งผู้เสียหายยังติดตามสถานะการแก้ไขปัญหาได้ในทุกขั้นตอน
ส่วนนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สายด่วนแจ้งหลอกลงทุนจะเป็นช่องทางให้ประชาชน ผู้ลงทุน และองค์กรต่างๆ ร่วมกันแจ้งเบาะแสหลอกลงทุนในตลาดทุน เพื่อตัดวงจรหลอกลวงของมิจฉาชีพได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบเพจปลอมที่แอบอ้างตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งได้ report แล้วกว่า 320 ราย หากประชาชนพบเจอเว็บไซต์ชวนลงทุน หรือยังไม่มั่นใจให้เช็กให้รอบคอบก่อนลงทุน.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่