นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เชิญหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง กับการค้าชายแดนและผ่านแดน มาประชุมเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้า การลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567-2570 ใน 4 ยุทธศาสตร์ย่อย ได้แก่ 1.พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของไทย 2.ยกระดับศักยภาพ อำนวยความสะดวกของด่านชายแดน 3.ส่งเสริมและใช้ประโยชน์จากกรอบความตกลงและกรอบความร่วมมือต่างๆ 4.ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเป็น 2 ล้านล้านบาท ในปี 2570 และได้แก้ไขชื่อคณะกรรมการส่งเสริม การค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อบ้านเป็นคณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดน และผ่านแดน
“กรมได้ผลักดันจัดตั้งศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (OSS) ในจังหวัดที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูง เพื่ออำนวยความสะดวก ด้านการค้าชายแดน ผ่านแดนแบบครบวงจร จังหวัดที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูง 10 จังหวัด มีความพร้อมจัดตั้งได้ทันที 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด และสงขลา จัดตั้งได้ภายใน 3 เดือน 4 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย อุดรธานี นครพนม มุกดาหาร ส่วนจันทบุรีและสระแก้ว จะจัดตั้งศูนย์ได้ในปี 2568”
พร้อมกันนั้น ได้ติดตามการเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม เพื่อขนส่งสินค้า ล่าสุด มีจุดผ่านแดนฝั่งไทยเปิดแล้ว 86 แห่ง จาก 95 แห่ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเปิด 73 แห่ง ส่วนความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องให้กับผู้ส่งออกรายย่อยตามโครงการจับคู่กู้เงินที่กรมฯได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อย ณ วันที่ 13 ต.ค. มีผู้ยื่นขอสินเชื่อ 1,689 ราย วงเงิน 6,607 ล้านบาท อนุมัติ 1,649 ราย วงเงิน 6,444 ล้านบาท
“มูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน ก.ย. อยู่ที่ 148,564 ล้านบาท ลดลง 3.32% เป็นไทยส่งออก 87,480 ล้านบาท ลดลง 3.97% ไทยนำเข้า 61,084 ล้านบาท ลดลง 2.37% ได้ดุลการค้า 26,396 ล้านบาท ส่วน 9 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่า 1,311,372 ล้านบาท ลดลง 2.26% เป็นไทยส่งออก 755,206 ล้านบาท ลดลง 2.06% ไทยนำเข้า 556,167 ล้านบาท ลดลง 2.53% ได้ดุลการค้า 199,039 ล้านบาท”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่