สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมหั่นเป้าเอ็มพีไอเป็นลบ 4.5% เศรษฐกิจโลกชะลอตัว

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือน ก.ย.66 อยู่ที่ระดับ 91.60 ลดลง 6.06% เทียบช่วงเดียวกันปี 65 ส่วนช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 66 อยู่ที่ระดับ 94.31 ลดลง 5.09% จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและกระทบการส่งออกไทย “สศอ.จึงปรับประมาณการเอ็มพีไอ ปีนี้ใหม่ โดยอยู่ที่ลบ 4.0% ถึงลบ 4.5% จากเดิมลบ 2.8% ถึงลบ 3.8% ด้านผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรม คาดลบ 2.5% ถึงลบ 3.0% จากประมาณการครั้งก่อนที่คาดลบ 1.5% ถึงลบ 2.5% เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ค่าเงินบาทอ่อน รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน และอิสราเอล-ฮามาส ยังยืดเยื้อ”

ขณะเดียวกัน อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.66 อยู่ที่ 58.02% และช่วง 9 เดือน อยู่ที่ 59.83% ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบนำเข้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวช้าจากโครงสร้างการส่งออกของภาคการผลิตไทย ไม่ตอบสนองความต้องการของโลกในปัจจุบัน แต่การท่องเที่ยวยังคงขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ดังนั้น สศอ.จะประกาศเอ็มพีไอที่เป็นตัวเลขเดียวอีกครั้งในเดือน พ.ย.นี้

สำหรับภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของไทยเดือน ต.ค.66 พบว่า อยู่ในช่วงขาลง จากปัจจัยภายในประเทศชะลอตัวตามการลงทุน และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวลง จากการนำเข้าสินค้าทุน รวมถึงพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างและ ยอดจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ใหม่ลดลงเมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม 3 เดือนข้างหน้า ชะลอตัวลงเช่นกัน จากความกังวลเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การอ่อนค่าของเงินบาท และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตในเดือน ก.ย.66 ได้แก่ พลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้น น้ำตาล สายไฟ และเคเบิลอื่นๆ ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งผลลบ ได้แก่ รถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การกลั่นน้ำมัน.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่