นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัทการบินไทย โดยมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เป็นประธาน และมอบหมายให้นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง เป็นรองประธาน รวมทั้งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการจำนวนมาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาและการฟื้นฟูของบริษัทการบินไทยและมีหน้าที่ในการให้คำแนะนำ และให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาการดำเนินการของการบินไทยที่มีปัญหาและอุปสรรค เพื่อให้การดำเนินงานของการบินไทยมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย) ประจำปีงบฯ พ.ศ.2567 รวม 8,268 ล้านบาท และให้คลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขต่างๆ เนื่องจาก ขสมก.ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องการเงิน เนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุนและไม่ได้รับเงินชดเชยการขาดทุนตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง ทำให้ยังมีหนี้สินค้างชำระรวม 136,000 ล้านบาท (30 ก.ย.65) ขณะที่การจัดทำประมาณการเงินสดรับ-จ่าย ในปีงบฯ 2567 คาดว่าจะมีเงินสดคงเหลือปลายงวดขาดมือ 23,635 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินทำให้องค์กรบริหารจัดการต่อไปได้ ขสมก.จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงิน 23,635 ล้านบาท มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระและไถ่ถอนพันธบัตรเงินกู้ 15,366 ล้านบาท
“ครม.ได้มีการหารือกันว่าในเรื่องผลการขาดทุนของ ขสมก.ปัจจุบันยังมีการขาดทุนมาก แต่ในอีก 1-2 ปีข้างหน้าหากมีการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้ามาใช้จะทำให้ผลประกอบการของ ขสมก.ดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนในเรื่องของเชื้อเพลิงของ ขสมก.ลดลงจากในปัจจุบัน”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่