นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.เป็นห่วงสถานการณ์น้ำ ที่เริ่มท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศที่ได้สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตร ทรัพย์สินบ้านเรือนของประชาชน โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงภาคการท่องเที่ยว หากไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนให้เพิ่มสูงขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลเร่งจัดทำแผนรับมือผลกระทบและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นและการขาดแคลนสินค้าต่างๆ เพราะหากกระบวนการผลิตต้องยุติลง อาจทำให้ราคาสินค้าปรับสูงขึ้น ล่าสุด ส.อ.ท.ได้เสนอให้สมาชิก เตรียมปรับแผนเส้นทางขนส่งสินค้า ทั้งทางรางและทางน้ำ หากกรณีน้ำท่วมรุนแรง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วม
สำหรับกรณีที่รัฐบาลประกาศลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ ให้เป็นของขวัญปีใหม่ ให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรม ก็อยากให้รัฐบาลเร่งพิจารณา เนื่องจากบางโรงงานได้ปรับสัญญาซื้อขายสินค้าตามต้นทุนที่ลดลง เพราะต่างชาติก็ทราบข่าวการลดต้นทุนค่าไฟฟ้า จึงมีการทวงถามมายังผู้ประกอบการไทยด้วย จึงต้องทำสัญญาซื้อขายใหม่ตามต้นทุนที่ลดลง หากการพิจารณาลดค่าไฟฟ้าล่าช้าออกไป หรือไม่เป็นไปตามนโยบาย ยอมรับว่าจะมีผลต่อเอกชนอย่างมากที่ต้องแบกภาระต้นทุนไว้เอง
“แนวทางการดูแลค่าไฟฟ้าในระยะยาว ภาคเอกชน ต้องการให้รัฐบาลวางแผนปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าทั้งระบบ โดยเฉพาะต้นทุนจากการจ่ายค่าความพร้อมจ่าย ที่เป็นภาระต้นทุนที่สูง จึงอยากให้ปรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้สอดคล้องกับความต้องการและปริมาณอย่างเหมาะสม”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่