นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีนต่อประเทศไทย ตามที่มีข่าวลือเชิงลบที่มีต่อประเทศไทยแพร่กระจายในโซเชียลมีเดียของจีน ให้ระวังการเดินทางมาไทยแล้วจะถูกจับตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ หรือจับไปขโมยไตนั้น ล่าสุดยังมีภาพยนตร์เรื่องดังของจีน 2 เรื่อง ยังส่งผลต่อทัศนคติชาวจีนที่มีต่อจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวในอาเซียนอีกด้วย เพราะมีเนื้อหาพูดถึงคดีอาชญากรรมในอาเซียน โดยเรื่องแรกคือ “Lost in The Star” ชื่อเรื่องภาษาไทยคือ เมียผมหายในหมู่ดาว สร้างรายได้กว่า 3,500 ล้านหยวน หรือประมาณ 17,500 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวนเท่ากับ 5 บาท) เรื่องที่สองคือ “No More Bets” สร้างรายได้กว่า 3,700 ล้านหยวน ประมาณ 18,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลไทยต้องเร่งเข้าไปแก้ไขและสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางมาเที่ยวไทยอย่างปลอดภัยให้ได้
ทั้งนี้ ผลวิจัยจากสภาวิจัยท่องเที่ยวจีนระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกปี 66 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศแล้ว 40.37 ล้านคน เลือกเดินทางมาไทย 3.29% ของทั้งหมด ยังน้อยกว่าเมื่อปี 62 ก่อนโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 6.4% หรือคิดเป็น 10 ล้านคน จากนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศทั้งหมด 155 ล้านคน ถ้าช่วง 6 เดือนหลังปีนี้ ไทยสามารถชิงส่วนแบ่งนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มเป็น 6.4% จากปัจจัยหนุน วีซ่า-ฟรี คาดว่าตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศกว่า 95 ล้านคน นอกจากนี้ ผลวิจัยยังระบุถึงเทรนด์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนว่า เปลี่ยนไปจากปี 1999 ที่ชาวจีนนิยมเดินทางท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับกิจกรรมและธรรมชาติ จากเฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยปีละ 5 ครั้ง วัตถุประสงค์สำคัญคือเน้นทานอาหารอร่อยและสะอาด
“สภาวิจัยท่องเที่ยวจีนระบุด้วยว่า ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนให้ ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงอาหารมากขึ้น โดยกว่า 92.3% ของนักท่องเที่ยวจีนจะหาข้อมูลเรื่องอาหารก่อนออกเดินทาง ขณะที่ 93.1% จะต้องไปชิมอาหารอร่อยในพื้นที่ และ 76.8% ของนักเดินทางเพื่อธุรกิจ จะต้องใช้เวลาช่วงก่อนหรือหลังงานธุรกิจเพื่อไปหาของอร่อยทาน”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่