สิ้นสุดการเดินทางเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly : UNGA78) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พร้อมคณะและเดินทางกลับประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การประชุม UNGA78 ครั้งนี้ นับเป็นเวทีโลกแห่งแรกของ “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ต้องแสดงบทบาทผู้นำของประเทศไทยในเวทีโลก
หากมองอย่างเป็นกลาง ตลอดระยะเวลาการเดินทางตั้งแต่วันที่ 18-24 ก.ย.2566 ถือว่า “เศรษฐา” ทำหน้าที่ได้อย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่องในเวทีโลก เพราะนอกจากเลขาธิการสหประชาชาติจะชื่นชมประเทศไทยที่ได้เริ่มเดินหน้าและสานต่อนโยบายการลดโลกร้อน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การดำเนินการธุรกิจสีเขียว เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs)
ประเทศไทยเป็น 1 ใน 38 ประเทศ จากสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ 193 ประเทศ ที่ได้คัดเลือกให้ผู้นำกล่าว ถ้อยแถลงบนเวที UNGA78 ครั้งนี้ ซึ่งได้กล่าวถ้อยแถลงถึง 5 ครั้ง และได้ประชุมทวิภาคีกับผู้นำอีกหลายประเทศนับเป็นเรื่องราวดีๆที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นอกจากแสดงบทบาทบนเวทีโลกแล้ว นายเศรษฐายังแสดงบทบาทของผู้นำประเทศ เดินสายพบปะนักธุรกิจสหรัฐฯ ชักชวนบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก กองทุนการเงินชั้นนำของโลก อาทิ เทสลา, เอสเต้ ลอเดอร์, ไมโครซอฟท์, กูเกิล, แบล็กร็อก, เจพี มอร์แกน โกลด์แมนแซคส์, ซิตี้แบงก์ เป็นต้น เพื่อชักชวนให้มาขยายฐานการผลิต และตั้งสำนักงานในประเทศไทย อีกทั้งยังได้พบปะผู้บริหารตลาดหุ้นนิวยอร์กอีกด้วย โดยคาดหวังในปีหน้าจะมีบริษัทไทยเข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดนิวยอร์กได้
หากจะประเมินเม็ดเงินลงทุนต้องใช้เวลา เพราะแต่ละรายยังพิจารณารายละเอียด แต่เมื่อมาลงทุนจริงจัง เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อราย ซึ่งจะเป็นลักษณะทยอยลงทุน
เพราะการลงทุนจากต่างประเทศจะทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ต้องเติบโตมากกว่า 5% อย่างแน่นอน แต่หากไม่มีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยก็ไม่มีโอกาสเพิ่มขึ้นได้
ดังนั้น บทบาทนายกรัฐมนตรีของประเทศจะพยายามทุกวิถีทางที่จะชักชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทย และต้องทำให้เป็นศูนย์กลางการผลิตให้ได้
ขณะเดียวกันยังได้นำทัพนักธุรกิจไทยมาพบปะหารือกับนักธุรกิจสหรัฐฯ เพื่อจับคู่ธุรกิจ โดยนักธุรกิจไทยที่เดินทางมาร่วมทริปครั้งนี้ได้สะท้อนภาพให้เห็นถึงการทำงานของนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ซึ่งนักธุรกิจไทยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะบริหารประเทศให้ประชาชนคนไทย อยู่ดี กินดี มีความเสมอภาคเท่าเทียม และต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างจริงจัง
เริ่มจาก นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) และยังสวมหมวกประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะการเดินทางมาโรดโชว์ต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่นักลงทุนไทยพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในทุกประเด็น เพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างชาติเข้าประเทศ
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เล่าสั้นๆว่า ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ในการทำงาน ต่างชาติมองไทยในมุมเปิดประเทศ เชื่อมั่นประเทศไทยมากขึ้น
ส่วน จรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เล่าว่า จากการร่วมทริปกับนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องที่ดี นักธุรกิจสหรัฐฯให้การตอบรับ และบริษัทยักษ์ใหญ่มีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ขณะที่ น.ส.นฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เล่าว่า นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจมากที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ ดังนั้น ทุกคนต้องให้กำลังใจ ให้โอกาสทำงาน ไม่มีใครรู้ทุกเรื่องทุกอย่าง การทำงานของรัฐก็ต้องทำงานควบคู่กันไปกับเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ
และในฐานะสื่อมวลชนที่ได้มีโอกาสร่วมเดินทางครั้งนี้กับนายกรัฐมนตรี ต้องยอมรับความแข็งแกร่งของนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ถือว่าทำงานไม่รู้จัก “เหน็ดเหนื่อย” เพราะคิวงานแน่นทุกวัน!
การเดินทางครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (APEC) ที่จะจัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 12-18 พ.ย.2566 นี้ จะต้องมีความชัดเจน
และการไปร่วมประชุมเอเปกจะเชิญชวนนักลงทุนจากไทยทั้งรายใหญ่ รายกลาง ร่วมเดินทางไปเพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยไปลงทุนในสหรัฐฯและดึงนักลงทุนสหรัฐฯมาลงทุนไทยด้วยรัฐบาลภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน ”พร้อมเดินเครื่องทำงานเต็มพิกัด เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน.
ดวงพร อุดมทิพย์
คลิกอ่านคอลัมน์ "THE ISSUES" เพิ่มเติม