สุดอึ้ง พักหนี้เกษตรกร ทำคนไทยเป็นหนี้ไม่รู้จบ พบหนี้เพิ่ม 75%ใน 9 ปี เพิ่มวินัยการเงินคือทางออก

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สุดอึ้ง พักหนี้เกษตรกร ทำคนไทยเป็นหนี้ไม่รู้จบ พบหนี้เพิ่ม 75%ใน 9 ปี เพิ่มวินัยการเงินคือทางออก

Date Time: 22 ก.ย. 2566 11:14 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วยฯ ถอดบทเรียนการพักหนี้เกษตรกรไทย พบเกษตรเป็นหนี้เพิ่มขึ้น 75% ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ชี้ควรทำตรงจุด ชั่วคราว และคำนึงถึงวินัยลูกหนี้ เพื่อช่วยแก้หนี้อย่างยั่งยืน

Latest


สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วยฯ ถอดบทเรียนการพักหนี้เกษตรกรไทย ชี้ควรทำตรงจุด ชั่วคราว และคำนึงถึงวินัยลูกหนี้ เพื่อช่วยแก้หนี้อย่างยั่งยืน ในงาน PIER Research Brief ครั้งที่ 4/66

ภาพรวมหนี้เกษตรกรไทย ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา

ข้อมูลสำรวจครัวเรือนเกษตรกรของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ และข้อมูลสินเชื่อรายสัญญาจากเครดิตบูโร ชี้ว่ากว่า 90% ของเกษตรกรไทย มีหนี้สิน โดยมีหนี้เฉลี่ยมากกว่า 450,000 บาทต่อครัวเรือน และเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโตถึง 75% ในรอบ 9 ปี ที่สำคัญคือครัวเรือนเกษตรกร กว่าครึ่งมีแนวโน้ม ที่จะไม่สามารถปิดจบหนี้ได้ (เป็นหนี้เรื้อรัง หรือ persistent debt) เพราะปริมาณหนี้สูงเกินศักยภาพ ทำให้การชำระหนี้ส่วนใหญ่ จ่ายคืนได้เพียงดอกเบี้ยเท่านั้น

ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการวิจัย และ ดร.ลัทธพร รัตนวรารักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ศึกษาผลกระทบของมาตรการพักหนี้เกษตรกรในช่วงที่ผ่านมา โดยใช้ข้อมูลสินเชื่อรายสัญญาของลูกหนี้ตัวอย่าง 1 ล้านคนที่สุ่มจากลูกหนี้รายย่อย ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในช่วงปี 2557-2566 พบว่าตลอด 9 ปีที่ผ่านมา มีการพักหนี้เกษตรกรมากถึง 13 มาตรการใหญ่ มีเกษตรกรเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และกว่า 42% อยู่ในมาตรการพักหนี้นานเกิน 4 ปี  

โดยการพักหนี้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ การพักหนี้แบบวงกว้าง เช่น โครงการเกษตรประชารัฐ และการพักหนี้แบบเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งมาตรการส่วนใหญ่เป็นการพักชำระ เฉพาะเงินต้นอย่างเดียว และทำในวงกว้าง (opt out) ทำให้มีเกษตรกร เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทั้งลูกหนี้ที่มีปัญหาและลูกหนี้ ที่ยังสามารถจ่ายหนี้ได้ตามปกติด้วย นอกจากนี้ มาตรการพักหนี้ไม่มีเงื่อนไขช่วยให้ลูกหนี้รักษาวินัยในการชำระหนี้ 


พักหนี้นาน ขาดวินัยทางการเงิน ซ้ำเติมเกษตรกรเป็นหนี้เพิ่ม 

ผลการศึกษาพบว่ามาตรการพักหนี้เกษตรกรในอดีตไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้ได้อย่างยั่งยืนเห็นได้จากเกษตรกรที่เข้ามาตรการพักหนี้มียอดหนี้สูงขึ้นกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เข้ามาตรการอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเกิดจาก 

  1. 77% ของลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการ ได้รับสินเชื่อใหม่ระหว่างการพักหนี้
  2. 50% ของลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการ ขาดการจ่ายภาระดอกเบี้ยที่ยังเดินอยู่ 

นอกจากนี้ เกษตรกรที่เข้ามาตรการพักหนี้มีแนวโน้มเป็นหนี้เสียสูงขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากวินัยทางการเงินที่ลดลงหรือเสียกำลังใจเมื่อเห็นยอดหนี้คงค้างปรับสูงขึ้นมากอีกทั้งมีแนวโน้มสูงขึ้นที่จะกลับเข้าไปพักหนี้ซ้ำกลายเป็นติดกับดักหนี้ ในที่สุด และสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาแรงจูงใจของลูกหนี้ที่บิดเบี้ยว (moral hazard) ซึ่งผลกระทบเหล่านี้จะรุนแรงขึ้นหากเกษตรกรเข้าร่วมมาตรการเป็นเวลานาน นอกจากนี้เกษตรกรที่เข้ามาตรการพักหนี้ไม่ได้มีการออมเงินหรือลงทุนทำการเกษตร เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ


มาตรการพักหนี้สู่กับดักหนี้เกษตรกร

เมื่อศึกษาผลกระทบของมาตรการพักหนี้แยกรายกลุ่มเกษตรกร พบว่า

  1. กลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพในการกู้และชำระหนี้อยู่แล้ว เมื่อเข้าร่วมมาตรการพักหนี้กลับมีหนี้เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ เพิ่มขึ้นกว่ากลุ่มอื่น ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกหนี้กลุ่มนี้เกิด moral hazard และขาดวินัยทางการเงินมากขึ้น โดยมีการขอสินเชื่อเพิ่มเติมในปริมาณมาก ในช่วงที่อยู่ในมาตรการพักหนี้ ดังนั้น การพักหนี้จึงยิ่งสร้างปัญหาหนี้ให้กับกลุ่มนี้
  2. กลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพ แต่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ชั่วคราว การพักหนี้อาจมีผลดีบ้าง เช่น ช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องให้เกษตรกรในระยะสั้น ทำให้สามารถลงทุนทำการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ต่อไปได้ แต่ยังไม่ทำให้การชำระหนี้ ปรับดีขึ้น อีกทั้งยังมีแนวโน้มกลับเข้าไปพักหนี้ต่ออย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการพักหนี้จะไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้ในระยะยาวให้กับลูกหนี้กลุ่มนี้ได้
  3. กลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพต่ำและจ่ายหนี้ไม่ได้อยู่แล้ว                              เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ จะมียอดหนี้สะสมและมีแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น และการพักหนี้ไม่ได้ช่วยให้เกิดการออมและลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเปรียบเหมือนการผลักปัญหาไปในอนาคต และไม่ช่วยให้กลับมาชำระหนี้ได้ 

โดยสรุป ผลการศึกษาชี้ว่ามาตรการพักหนี้ที่ทำในวงกว้าง ต่อเนื่องยาวนาน และไม่มีเงื่อนไขการรักษาวินัยทางการเงินที่ดีจะไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกหนี้ เกษตรกรในกลุ่มต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน


พักหนี้ระยะสั้น สร้างวินัยทางการเงิน เพิ่มวิธีหารายได้ ทางออกมาตรการพักหนี้เกษตรกร

จากผลการศึกษาข้างต้น สามารถถอดบทเรียนการออกแบบมาตรการพักหนี้ ที่เหมาะสมได้ 3 ประเด็น ดังนี้

  1. ควรเป็นมาตรการระยะสั้น และใช้เฉพาะในสถานการณ์รุนแรง                       เช่น การเกิดภัยธรรมชาติรุนแรง การระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งทำในวงจำกัด (opt in) สำหรับลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพ แต่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ชั่วคราวเท่านั้น 
  2. ควรมีกลไกสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ทุกกลุ่มยังรักษาวินัยในการชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มลูกหนี้ดีที่สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ต้องมีกลไกที่ทำให้ลูกหนี้ยังเลือกชำระหนี้อย่างมีวินัย ป้องกันไม่ให้เข้าร่วมมาตรการพักหนี้ เช่น การลดดอกเบี้ยสินเชื่อใหม่สำหรับลูกหนี้ที่ชำระได้ตามปกติ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ชำระหนี้ต่อเนื่อง ส่วนลูกหนี้ที่ประสบปัญหาและจำเป็นต้องเข้ามาตรการพักหนี้ ควรมีกลไกที่ยังทำให้ลูกหนี้มีแรงจูงใจและความพยายามที่จะชำระหนี้ตามความสามารถได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การพักชำระหนี้เพียงบางส่วน ทำให้ลูกหนี้ยังสามารถชำระหนี้ได้นอกจากนี้ อาจมีแนวทางเสริมให้เกษตรกรที่เข้ามาตรการพักหนี้มีการปรับตัว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ และลดความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ในระยะยาวด้วย
  3. ไม่ควรใช้มาตรการพักหนี้เป็นเครื่องมือหลักในการช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงให้เกษตรกร เพื่อลดการพึ่งพิงมาตรการพักหนี้และป้องกันปัญหา moral hazard ซึ่งในอนาคตหากมีความเสี่ยงของการทำการเกษตรมากขึ้น ระบบประกันสินเชื่ออาจเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ของเกษตรกรได้อย่างยั่งยืนกว่า


ทั้งนี้ ในการแก้ปัญหาหนี้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ภาครัฐควรมีบทบาทสำคัญ ในการเพิ่มศักยภาพและภูมิคุ้มกัน เพื่อให้เกษตรกรทุกกลุ่มสามารถชำระหนี้ได้ และลดการพึ่งเงินกู้ อีกทั้งควรให้น้ำหนักกับการช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้เรื้อรัง ซึ่งคิดเป็นกว่า 50% ของลูกหนี้เกษตรกรทั้งหมด ตลอดจนพัฒนาฐานข้อมูลลูกหนี้ เพื่อช่วยให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ได้ตรงจุดขึ้น และสามารถปล่อยสินเชื่อ ใหม่ที่มีคุณภาพและยั่งยืนขึ้น


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ