หวั่น “เอลนีโญ” ทำเกษตรไทยรายได้หด ผลผลิตลดลงกระทบส่งออก

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หวั่น “เอลนีโญ” ทำเกษตรไทยรายได้หด ผลผลิตลดลงกระทบส่งออก

Date Time: 13 ก.ย. 2566 07:17 น.

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงของเอลนีโญต่อภาคเกษตรไทยในปี 66 พบว่า ในภาพรวมเอลนีโญทำให้ปริมาณผลผลิตเกษตรลดลง ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น แต่หากผลกระทบด้านผลผลิตที่ลดลงมีมากกว่าผลกระทบของราคาที่สูงขึ้นก็จะทำให้รายได้เกษตรกรลดลง ทั้งนี้ หากแยกเป็นรายสินค้า พบว่า ข้าวคาดผลผลิตปี 66/67 จะลดลงจากปีก่อน แต่พอเพียงสำหรับบริโภคในประเทศและส่งออก โดยราคาข้าวตลาดโลก และไทยเพิ่มขึ้น จากอินเดียห้ามส่งออกข้าวขาวชั่วคราว ขึ้นภาษีส่งออกข้าวนึ่ง กำหนดราคาเพดานส่งออกข้าวบาสมาติ รวมถึงเวียดนามลดปริมาณส่งออก

ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดว่าผลผลิต ปี 66/67 จะลดลงจากปีก่อน ไม่เพียงพอต่อการใช้ จึงต้องนำเข้าข้าวสาลี และข้าวบาร์เลย์เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่มันสำปะหลังคาดผลผลิต ปี 66/67 จะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศและส่งออก ส่งผลให้ช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 66 มูลค่าส่งออกมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์หดตัว 17.6% จากระยะเดียวกันปีก่อน สำหรับปาล์มน้ำมันคาดผลผลิตปี 66/67 จะลดลงจากสภาพอากาศร้อน และผลผลิตไม่ได้คุณภาพ แต่การที่อินโดนีเซียลดการส่งออก ส่งผลให้ราคาตลาดโลกสูงขึ้น เป็นผลดีต่อการส่งออกของไทย แม้ในช่วง 7 เดือนปี 66 มูลค่าการส่งออกน้ำมันปาล์มของไทย หดตัว 37.5%

ส่วนผลไม้ คาดทุเรียนและมังคุดจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก ลำไยจะมีผลผลิตลดลงจากภัยแล้งและลดพื้นที่ปลูก แต่จีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกผลไม้ที่สำคัญของไทยยังมีความต้องการนำเข้าต่อเนื่อง โดย 7 เดือนปี 66 มูลค่าส่งออกผลไม้สด โตถึง 17.8% ส่วนน้ำตาลคาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 66/67 ลดลง แต่ราคาน้ำตาลตลาดโลกสูงขึ้นจากอินเดียห้ามส่งออก ซึ่งจะส่งผลดีต่อไทย โดย 7 เดือนปี 66 มูลค่าส่งออกน้ำตาลทรายขยายตัว 17.7%.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ