ในที่สุดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ประสบความสำเร็จ หลังจากรอคอยมานานหลายปี โดยสามารถผลักดันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อนุมัติการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล (Lottery 6 : L6) และสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (Numbers 3 : N3) เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบใหม่ตามการเปลี่ยนแปลงจากยุคสลากใบ สู่ยุคสลากดิจิทัล
ตามแผนงานของคณะกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร นั่งหัวโต๊ะ เคาะแผนเปิดจำหน่ายสลาก L6 งวดวันที่ 16 ก.ย. 2566 ส่วน N3 คาดว่าจะเปิดขายต้นปี 2567 สำหรับสลาก L6 ไม่ได้มีประเด็นซับซ้อนมากนัก เพราะคือสลากกินแบ่งรัฐบาล แบบใบและแบบดิจิทัลในปัจจุบัน และผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ว่าจะซื้อสลากดิจิทัล หรือสลากใบ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ยังคงซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะซื้อสลากดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือจะซื้อจากแผงขายลอตเตอรี่ทั่วไป
ส่วนเหตุผลที่ต้องนำเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัตินั้น เพื่อให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายใหม่เท่านั้น เนื่องจากกฎหมายฉบับเดิมกำหนดให้สลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบใบที่เป็นกระดาษ และไม่สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ใดๆได้ ดังนั้น สลาก L6 จึงเป็นเพียง “เหล้าเก่าในขวดใหม่” เท่านั้น
เมื่อ ครม.อนุมัติแล้วนั้น กระทรวงการคลัง จะส่งร่างประกาศ เรื่อง กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (Lottery 6 : L6) ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นที่เรียบร้อย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิมพ์สลากใบ เพื่อนำมาสแกนแล้วนำไปจำหน่ายเป็นสลากดิจิทัลอีกต่อไป สามารถดำเนินการเป็นสลากดิจิทัลได้ทันที
ในเบื้องต้นสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะยังไม่เพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล จากงวดปัจจุบันอยู่ที่ 19.60 ล้านใบ เนื่องจากรอดูความต้องการของประชาชนก่อน ซึ่งตามเป้าหมายภายในปีนี้จะทยอยเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลไปจนครบ 20 ล้านใบ
โดยปัจจัยที่จะหยิบยกมาพิจารณาเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล คือ ราคาสลากแบบใบต้องลดลง ไม่ขายเกินราคาใบละ 80 บาท หากราคาสลากยังคงแพง จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำให้สลากแบบใบที่ขายเป็นการทั่วไป ขายไม่เกินราคา 80 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยอมรับมาตลอดว่า การแก้ปัญหาสลากเกินราคาใบละ 80 บาท เป็นที่เรื่องที่ยาก และเชื่อว่าสลากเกินราคาจะยังคงอยู่ต่อไป นั่นเป็นเพราะการเสี่ยงโชค เสี่ยงดวงจาก “เลข” ที่ใช่ คาดหวังถูกรางวัล ผู้ซื้อยอมควักเงินจ่ายแบบเต็มใจ!!
ถึงแม้ปัจจุบันสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะมีช่องทางการซื้อสลากในราคาใบละ 80 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ซื้อสลากในราคา 80 บาท ทั้งผ่านแอปเป๋าตัง และจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 บาท สำหรับจำนวนสลากกินแบ่งรัฐบาล
ในปัจจุบันอยู่ที่ 100 ล้านใบ แบ่งเป็น สลากใบ 80.40 ล้านใบ และสลากดิจิทัล 19.60 ล้านใบ
ส่วนการออกรางวัลและการออกรางวัล L6 เหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาลปัจจุบันเช่นเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง!
สำหรับสลาก N3 ออกมาเพื่อแก้ปัญหาหวยใต้ดิน และเป็นทางเลือกให้ประชาชน เพราะราคาขายจะอยู่ประมาณ 30-50 บาทต่อหน่วย และสามารถซื้อได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เช่นเดียวกัน ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งจะสะดวกต่อผู้ซื้อและผู้ขาย และต้องมั่นใจว่า เมื่อถูกรางวัล จะต้องได้เงินรางวัล มากน้อยตามจำนวนเงิน
เพราะสลาก N3 คือ สลากตัวเลข 3 หลัก ประเภทสมทบเงินรางวัล ประกอบด้วยหมายเลข 3 หลัก ตั้งแต่ 000-999 1 หมายเลขต่อสลาก 1 รายการ
ทั้งนี้ รางวัล N3 กำหนดไว้ 4 รางวัล โดยคิดเงินรางวัลเป็นร้อยละจากยอดจำหน่ายสลากในงวดนั้นๆไว้ดังนี้ รางวัลสามตรง (ตรงเลข-ตรงหลัก) เงินรางวัล 30% รางวัลสามสลับหลัก (ตรงเลข-สลับหลัก) เงินรางวัล 30% รางวัลสองตรง (ตรงเลข-ตรงหลัก) เงินรางวัล 39% และรางวัลพิเศษ เงินรางวัล 1 %
ส่วนการจ่ายเงินรางวัลของสลาก N3 จะผันแปรตามยอดการจัดจำหน่ายสลากทั้งหมดในแต่ละงวด ยกเว้นรางวัลพิเศษที่จะจ่ายเงินจำนวนเต็ม หากจำนวนเงินในการจ่ายรางวัลมีเศษจะนำไปสมทบกับรางวัลพิเศษแทน โดยขณะนี้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กำลังเร่งดำเนินการวิธีการ รูปแบบการซื้อสลาก N3 รวมถึงการทดลองระบบการซื้อ เพื่อให้ระบบมีความเสถียรมากที่สุด
ดังนั้น การออกสลาก L6 และ N3 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้ำหนักแน่นว่า เพื่อความถูกต้องทำตามขั้นตอนกฎหมายให้ครบถ้วน ไม่ได้มอมเมาประชาชน แต่เป็นการเปิดหน้าสู้ศึกหวยแพงและหวยใต้ดิน ด้วยเอวังก็มีประการฉะนี้แล!!
ดวงพร อุดมทิพย์