ฝันกำลังซื้อจีน 3 แสนล้านบาท ฟื้นท่องเที่ยวไทย

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.คลายกังวลเรื่องตลาดจีนได้ระดับหนึ่ง จากเดิมที่เกรงว่าจะไม่ถึงเป้าที่วางไว้ 5 ล้านคนในปีนี้ อีกทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางด้วยตัวเอง (FIT) เป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึงทริปละกว่า 60,000 บาทต่อคน สูงกว่าปีก่อนเกิดโควิด-19 ปี 2562 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยทริปละ 50,000 บาทต่อคน ทำให้ปีนี้มีโอกาสได้รายได้จากนักท่องเที่ยวจีนชาติเดียวถึง 300,000 ล้านบาท จากเป้ารวมรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.62 ล้านล้านบาท

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท.กล่าวว่า ตลาดที่ยังไม่กลับมาคือกรุ๊ปทัวร์ ทำให้บริษัททัวร์และโรงแรมระดับ 3 ดาว ยังไม่ฟื้น เพราะติดข้อจำกัดเรื่องการขอวีซ่า ขณะที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยสะสม 1.6 ล้านคน เฉลี่ย 15,000 คนต่อวัน จึงมีโอกาสลุ้นเป้า 5 ล้านคน ล่าสุดที่ ททท.ได้เปิดตัวการขอวีซ่าหน้าด่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-VoA) ร่วมกับอาลีเพย์ (Alipay) พบว่า 87% ของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางด้วยตัวเอง เลือกขอวีซ่าด้วยวิธีนี้ และ ททท.ยังรอตลาดกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่กลับมาหลังจากได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ พัฒนาโปรแกรม VPSS (Visa Pre-Screening System) เพื่อให้การขอวีซ่าที่สถานกงสุลสะดวกขึ้น

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี เจ้าของโรงแรมราวินทรา รีสอร์ท แอนด์ สปา และเครือโรงแรมซันไชน์ พัทยา กล่าวว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมเชน 5 ดาวและร้านอาหารแพงๆ กลับมาดี แต่ผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ยังไม่ฟื้น ตราบใดที่กรุ๊ปทัวร์จีนยังไม่กลับมา ซึ่งตั้งแต่ช่วงโควิดระบาด ททท.บอกจะเน้นดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจำนวนอาจน้อยลง แต่ใช้จ่ายมากขึ้นตนก็ถามทุกครั้ง แล้วจะปล่อยให้เอสเอ็มอีตายใช่ไหม ก็ไม่มีคำตอบ

นายชัยรัตน์ รัตโนภาส นายกสมาคมสปาและเวลเนส ภาคตะวันออก กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาพัทยา ช่วงนี้เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง พำนัก 3-4 วัน ใช้จ่ายหลายหมื่นบาทต่อวัน ไปเที่ยวกันเองแบบส่วนตัว เน้นช็อปปิ้งและไปร้านอาหารตามรอยวัยรุ่นไทยผ่านโซเชียลมีเดียอย่างติ๊กต่อก (TikTok) รวมถึงตามรอยซีรีส์วาย สวมชุดนักเรียนไทยถ่ายรูป ทำให้ผู้ประกอบการต้องขยันบูสต์อัปคอนเทนต์ของสินค้า และบริการบนช่องทางออนไลน์.