นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การรับซื้อผลไม้ภาคใต้ พบว่า มีความต้องการซื้อจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคาผลไม้ภาคใต้ปรับตัวดีขึ้นมาก ล่าสุดราคาทุเรียนเกรด AB ขยับขึ้นไปเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 145 บาท ตกเกรด กก.ละ 100 บาท โดยขอให้เกษตรกรเน้นเรื่องคุณภาพ อย่าตัดทุเรียนอ่อน เพื่อสร้างมาตรฐานให้กับทุเรียนไทย และส่งผลดีต่อราคาที่ขายได้ ขณะเดียวกันกรมได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจังหวัด ดูแลมาตรฐานและการรับซื้อที่ต้องเป็นธรรม เพื่อดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิดด้วย
“ตลาดส่งออกมีความต้องการเพิ่มขึ้นจริง เพราะจากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบการส่งออกผลไม้ผ่านระบบราง ที่สถานีรถไฟมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง พบว่าคึกคักมาก ผู้ส่งออกหันมาใช้การส่งออกทางรางมากขึ้น นอกเหนือจากการขนส่งทางบกและทางเรือ โดยช่วงครึ่งแรกปี 66 ส่งออกผ่านทางรางแล้ว 2,124 ตู้ เทียบกับทั้งปี 65 ที่ส่งออกเพียง 512 ตู้ เพราะการขนส่งทางรางมีความรวดเร็ว ตู้สินค้าไม่ต้องไปเข้าคิวติดที่ด่านเหมือนทางบก และตู้ขนส่งก็เป็นระบบควบคุมอุณหภูมิทำให้ผลไม้ยังสดเมื่อไปถึงปลายทาง ที่สำคัญใช้เวลาขนส่ง 6 วัน จากทางบก 11 วัน”
ด้านนายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ผลไม้ภาคใต้ออกสู่ตลาดแล้ว 35-45% โดยราคาดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่กรมได้ประสานผู้ประกอบการ ผู้ส่งออกโรงงานแปรรูป ห้างค้าส่งค้าปลีก พ่อค้าส่ง เข้าไปรับซื้อ อย่างทุเรียน เกรด AB กก.ละ 130-145 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.66 ที่ กก.ละ 115-125 บาท เกรด C กก.ละ 95-105 บาท เกรด D กก.ละ 90 บาท ส่วนมังคุด เกรดมันรวม กก.ละ 53-109 บาท เกรดคละ กก.ละ 28-30 บาท เงาะโรงเรียน กก.ละ 33-35 บาท เกรดสีทอง กก.ละ 26-27 บาท สำหรับมาตรการช่วยเหลือผลไม้ที่ยังไม่ออกสู่ตลาดได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว.