นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการ 2 ราย แสดงเจตจำนงที่จะนำเอทานอลไปผลิตเป็นไบโอ-เอทิลีน (bio-based ethylene) เพื่อผลิตพลาสติกชีวภาพ เพื่อทดแทนพลาสติกในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มเอสซีจี และกลุ่ม บมจ.ปตท. เป็นต้น และเชื่อว่าจะมีเอกชนอีกหลายรายที่สนใจนำเอทานอลไปผลิตพลาสติกชีวภาพ ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของโลก ที่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ลดมลพิษ หากเอกชนรายใด นำเอทานอลไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลาสติกชีวภาพจะได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีเช่นเดียวกับการนำไปผสมในน้ำมันเชื้อเพลิง โดยปัจจุบันภาษีเอทานอลจัดเก็บลิตรละ 80 บาท
“การยกเว้นการจัดเก็บภาษี เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้น้ำมันผสมเอทานอล ซึ่งต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจนว่า อ้อยที่นำมาผลิตเอทานอลนั้น ต้องไม่เผา ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เป็นต้น โดยคาดว่าจะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาอนุมัติ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการกำหนดรายละเอียดของมาตรการ จึงไม่สามารถเสนอให้ ครม.ชุดนี้พิจารณาได้ โดยปัจจุบันไทยมีโรงงานผลิตเอทานอล 28 โรงงาน มีกำลังการผลิต 28,000 ล้านลิตรต่อปี มีความต้องการใช้จริง 1,500 ล้านลิตรต่อปี เพราะฉะนั้นยังเหลืออีก 1,300 ล้านลิตรที่สามารถนำไปผลิต เป็นไบโอ-เอทิลีน เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลาสติกชีวภาพได้”.