ทอท.ลั่นเดินหน้าลุย 2 โปรเจกต์ใหญ่ “สนามบินสุวรรณภูมิ” เปิดแน่อาคารหลังใหม่ “SAT 1” ก.ย.66 พลิกโฉมสู่มิติใหม่ได้ครบ 5 เรื่อง เสนอลงทุนใหม่แยก “อาคารผู้โดยสารในประเทศ” เล็งต่อขยายด้านทิศเหนือ North Expansion 4 หมื่นล้าน รองรับ 5 ปีหน้า ผู้โดยสารเกิน 95 ล้านคน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเปิดให้บริการอาคารสะพานเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ (SAT 1) สนามบินสุวรรณภูมิ ว่า ในการประชุมบอร์ด ทอท.เดือน มิ.ย.นี้ ทางฝ่ายบริหาร ทอท.จะรายงานให้บอร์ดรับทราบว่า ทอท.จะเปิดให้บริการทดลอง SAT 1 อย่างไม่เป็นทางการ (Soft Opening) ในเดือน ก.ย.66 ที่จะถึงนี้ และตามกำหนดจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในต้นปี 67
ทั้งนี้ เมื่อเปิดให้บริการ SAT 1 จะช่วยแก้ทั้งจุดวิกฤติสร้างความคุ้มค่าและพลิกโฉมบริการสนามบินสุวรรณภูมิก้าวมิติใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 5 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 เพิ่มพื้นที่ห้องพักคอยให้ผู้โดยสารได้กว่า 200,000 ตารางเมตร ซึ่งได้ดีไซน์ให้มีสนามเด็กเล่น พื้นที่ไลฟ์สไตล์ พื้นที่ร้านค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารใช้บริการอย่างมีความสุข พร้อมกับสามารถเดินช็อปปิ้งซื้อสินค้าแถมยังเป็นอีกช่องทางในการเพิ่มรายได้เข้าประเทศมากขึ้นจากผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทั่วโลก เรื่องที่ 2 เพิ่มทางวิ่ง (runway) ที่ 3 พร้อมหลุมจอดเครื่องบินได้อีก 28 หลุมจอดหรือเพิ่มขึ้น 40% จากปัจจุบันมีอยู่ 51 หลุมจอด และโดยภาพรวมจะขยายพื้นที่รองรับผู้โดยสารเป็น 60 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันอาคารผู้โดยสารหลังหลัก (Main Terminal) รับได้ 45 ล้านคน/ปี SAT 1 รับได้ 15 ล้านคน/ปี เรื่องที่ 3 เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารด้วยการลดใช้ประตูรถบัสเพื่อนำผู้โดยสารไปขึ้นเครื่องบิน (bus gate) ที่ตอนนี้ใช้อยู่ 30% เมื่อเปิดใช้บริการ SAT 1 อย่างเป็นขั้นตอน ผู้โดยสารระหว่างประเทศก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้บัสเกตอีกต่อไป
เรื่องที่ 4 พัฒนาเป็นสนามบินศูนย์กลางการต่อเที่ยวบินเข้าสู่ยุโรป (Flight Transit Hub) จากประเทศต้นทางที่บินมาแวะพักสุวรรณภูมิเพื่อบินต่อไปยังประเทศปลายทางแถบยุโรป ปัจจุบันมีอยู่ประมาณวันละ 70-80 เที่ยว ตามปกติหลายสายการบินนานาชาติจะนำเครื่องมาใช้หลุมจอดในสุวรรณภูมิพักเครื่องเกิน 6 ชั่วโมง ซึ่งมีอุปสรรคจะต้องถอยเครื่องบินเข้าออก เพื่อให้สายการบินอื่นๆที่จะบินก่อนได้ใช้งาน เรื่องที่ 5 ได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์พลัง Soft Power วัฒนธรรมไทยให้ทั่วโลกเข้าใจเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง เพราะภายในอาคาร SAT 1 ได้จัดทำประติมากรรมช้างไทย พร้อมทั้งพระพุทธรูปให้ผู้ใช้บริการได้สักการะด้วย
อย่างไรก็ตาม อาคาร SAT 1 ทอท.จะบริหารจัดการให้เป็นอาคารที่รองรับผู้โดยสารที่ต่อเที่ยวบินเป็นหลัก ขณะเดียวกันผู้โดยสารจะยังคงใช้อาคารผู้โดยสารปัจจุบันเป็นหลักเพื่อเช็กอินและดำเนินการตามขั้นตอนการเดินทางให้ครบทุกขั้นตอน และจัดให้มีระบบ ICS เช็กอินกระเป๋าสัมภาระโหลดขึ้นเครื่องต่อเที่ยวบินลำเลียงไปยังสายการบินแต่ละลำที่อาคาร SAT 1 โดยใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที ส่วนผู้โดยสารต่อเครื่อง ทางสนามบินสุวรรณภูมิได้จัดบริการรถไฟฟ้ารางเบาไร้คนขับ APM : Automated People Move ไว้แล้ว โดยมีทางขึ้นลงอยู่ตรงด้านหลังประติมากรรมรูปกวนเกษียรสมุทร ขนส่งเชื่อมการเดินทางจากอาคารผู้โดยสารหลังหลักไปยังอาคาร SAT 1 ซึ่งใช้เวลาไม่กี่นาที
นายกีรติ กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการในโครงการก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือ (North Expansion) มูลค่า 40,000 ล้านบาท นั้น ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการเพื่อให้เป็นอาคารผู้โดยสารในประเทศ (Domestic Terminal) แยกออกจากอาคารผู้โดยสารหลังหลักปัจจุบันในสุวรรณภูมิ (Main terminal) ให้เกิดเป็นรูปธรรมภายใน 5 ปีข้างหน้า สำหรับสาเหตุที่ต้องสร้างอาคารด้านทิศเหนือ เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่รองรับด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร (Curve site) ที่จะเชื่อมการขนส่งกับการเดินทางทางบกหรือรถโดยสารต่างๆ ไม่สามารถขยายได้อีกแล้ว ขณะเดียวกันหากมีการก่อสร้างอาคารทิศเหนือ จะสามารถเชื่อมโยงบริการเดินทางทางอากาศเข้ากับการเดินทางทางบกด้วยโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ได้อย่างลงตัว
ส่วนความคืบหน้าในโครงการต่อขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันออก (East Expansion) กับ ทิศตะวันตก (West Expansion) นั้น ขณะนี้ ทอท.ได้คัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาดำเนินการวางแผนโครงการส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเปิดประมูลได้ช่วงต้นปี 67 ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานในอาคารได้เพิ่มขึ้นอีก 70,000 ตารางเมตร จากนั้น ทอท.ก็จะทยอยสร้างส่วนต่อขยายทางด้านทิศตะวันตกต่อไป
“การขยายขีดความสามารถสนามบินเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมขยายพื้นที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิแต่ละส่วนให้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA : International Air Transport Association) ระบุปี 2567 สุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารใช้บริการปีละไม่ต่ำกว่า 65 ล้านคน และตั้งแต่ปี 2571 จะขยับขึ้นเป็นปีละไม่ต่ำกว่า 95 ล้านคน”.