พาณิชย์ คาดงาน THAIFEX 2023 จะสร้างมูลค่าทางการค้ากว่า 70,000 ล้านบาท

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

พาณิชย์ คาดงาน THAIFEX 2023 จะสร้างมูลค่าทางการค้ากว่า 70,000 ล้านบาท

Date Time: 23 พ.ค. 2566 21:43 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • พาณิชย์ชูนโยบาย อาหารไทย อาหารโลก รองรับประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น พร้อมใช้หลักรัฐหนุน เอกชนนำ ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยผ่านงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2023 คาดจะสร้างมูลค่าทางการค้ากว่า 70,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อาหารถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสําคัญต่อระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหาร คือ การเติบโตของจำนวนประชากรโลกที่คาดการณ์กันว่าจะมีจำนวนเพิ่มจาก 8,000 ล้านคนในปัจจุบัน เป็น 10,000 ล้านคน ภายในปี 2593

โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวย่อมจะส่งผลต่อความต้องการอาหารที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ด้วยเหตุนี้ ประเทศต่างๆ จึงตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนอาหารที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แม้ว่าหลายประเทศจะมีนโยบายการพึ่งพิงอาหารภายในประเทศ (Food Self-Sufficiency) แต่เมื่อพิจารณาแนวโน้มจำนวนประชากร ก็คาดว่าจะไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตามประเทศไทยมีอุตสาหกรรมอาหารที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญมากมาย เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ มันสำปะหลัง และยังมีความสามารถในการแปรรูป สามารถคิดค้นนวัตกรรมทางด้านอาหาร มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย คำนึงถึงความยั่งยืน อีกทั้งสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

ที่สำคัญ คือ มีศักยภาพในการส่งออก จนได้ชื่อว่าเป็น ครัวของโลก (Kitchen of the World) ประกอบกับการผลักดันนโยบาย อาหารไทย อาหารโลก ของกระทรวงพาณิชย์ จึงทำให้ในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 15 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกถึง 1.36 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 22.7% จากปีก่อน

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของการส่งออกอาหารไทยเกิดจากนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่เข้าไปดูแลสนับสนุนการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้หลักรัฐหนุน เอกชนนำ ให้เอกชนเป็นทัพหน้า ส่วนรัฐเป็นผู้สนับสนุน เพื่อช่วยลดอุปสรรคในการส่งออกให้มากที่สุด

ผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ หรือ กรอ.พาณิชย์ เพื่อให้รัฐกับเอกชนจับมือร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมในการส่งออก และร่วมกันแก้ปัญหาเชิงรุก เพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไขและสำเร็จลุล่วงโดยเร็ว

ส่วนนโยบายที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่อง คือ การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) อาหารไทย เพื่อทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักและชื่นชอบอาหารไทยที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งจะนำไปสู่ความต้องการสินค้าและบริการของไทยมากขึ้น โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องด้วยการจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023

ทั้งนี้ ถือเป็นการเน้นย้ำให้ทั่วโลกเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะการเป็นฮับ (Hub) อาหารไทย อาหารโลก และเป็นผู้นำการผลิตและส่งออกอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก งานนี้จะเป็นเวทีสำคัญแห่งปีที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะ เจรจาการค้า ตลอดจนสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้นำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

เพิ่มโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสู่ต่างประเทศ ซึ่งปี 66 นี้กลับมาจัดแบบ On Site อย่างยิ่งใหญ่เหมือนก่อนเกิดสถานการณ์โควิด ขณะเดียวกัน มีการจัดงานผ่านช่องทางออนไลน์ THAIFEX Virtual Trade Show เพื่อรองรับผู้ที่ต้องการความสะดวก ไม่ต้องเดินทาง ให้สามารถเข้าเยี่ยมชมงานได้”

สำหรับงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ารวมกว่า 3,000 บริษัท จากทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ ประมาณ 6,000 คูหา จากกว่า 40 ประเทศ โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 95,000 ราย จาก 140 ประเทศทั่วโลก สามารถสร้างมูลค่าทางการค้าทั้งงานในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ได้กว่า 70,000 ล้านบาทให้กับเศรษฐกิจไทย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ