ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน มี.ค. แตะ 97.8 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 10 ปี ผลพวงกำลังซื้อภูมิภาคพุ่งจากรายได้ ภาคเกษตรและภาคท่องเที่ยวหนุน แต่ยังกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ จี้รัฐทบทวนค่าไฟงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.ให้เหลือต่ำกว่า 4.40 บาทต่อหน่วย จับตา “กกร.” ถก 3 พ.ค.นี้เตรียมรวบรวมแนวทางขับเคลื่อน ศก.เสนอรัฐบาลใหม่
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า ดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 97.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 96.2 ในเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2556 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายของความต้องการบริโภคในประเทศ และกำลังซื้อของประชาชน ในส่วนภูมิภาคจากรายได้ภาคเกษตร ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงภาคการท่องเที่ยว ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการขยายตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใน ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีภาคการก่อสร้าง ที่ขยายตัวส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน ประเทศไทย อยู่ระหว่างเตรียมการเลือกตั้ง. ซึ่ง ส.อ.ท.ได้มีการจัดเวทีดีเบตที่เชิญ 9 พรรคการเมืองมาชี้แจงนโยบาย และได้มีการนำเสนอแนวทางต่างๆเพื่อส่งต่อให้พรรคการเมืองที่จะมีบางส่วนได้เป็นรัฐบาลไปพิจารณาแล้วโดยเฉพาะแนวทาง การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ และการหารือคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน วันที่ 3 พ.ค.นี้จะมีการหารือและสรุปภาพรวม และสรุปข้อเสนอต่อพรรคการเมืองเพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่นำไปผลักดัน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบตรงเป้า
“ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ของประเทศไทย ที่สูงมาก จะเป็นอีกปัจจัยที่กระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขัน คณะทำงาน กกร. ที่ผ่านมาก็ได้มีการเสนอให้รัฐบาล ทบทวนค่าเอฟทีเดือน งวด พ.ค.-ส.ค.ที่รัฐประกาศเฉลี่ย 4.77 บาท ต่อหน่วย โดยได้นำเสนอข้อมูลที่เห็นว่าสามารถทำให้ค่าไฟฟ้า ลดลงมาสู่ระดับต่ำกว่า 4.40 บาทต่อหน่วยได้ที่ผ่านมาเงินเฟ้อได้ปรับตัวขึ้นสูง เพราะมีปัจจัยหลักๆ มาจากค่าพลังงานและค่าขนส่ง”
นายสรกิจ มั่นบุปผชาติ รองเลขาธิการ ส.อ.ท.กล่าวว่า ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 106.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 103.2 ในเดือน ก.พ. เนื่องจากเศรษฐกิจไทย มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ดังนี้ 1 ขอให้พิจารณาทบทวนมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อปรับลดค่าไฟฟ้างวด พ.ค.-ส.ค. ให้ต่ำกว่า 4.40 บาท/หน่วย 2 ส่งเสริมการเปิดตลาดส่งออกใหม่ๆ 3 เร่งรัดการแก้ไขปัญหาการเผาป่าตามแผนเฉพาะกิจ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566
นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ส.อ.ท.กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศซาอุดีอาระเบียปีที่ผ่านมา มีมูลค่า 1.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากนโยบาย Saudi Vision 2030 ที่ตั้งเป้าหมายจะนำพาไปสู่อนาคตใหม่ กับนโยบายในการสร้างเมืองใหม่ ที่มีชื่อว่า นีอุม จึงเป็นโอกาสการค้าและการลงทุนของไทย ซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นคู่ค้าลำดับที่ 17 ของไทยในตลาดโลก เขาระบุเลยว่าอยากชวนอุตสาหกรรมยานยนต์ ปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรให้เข้าไปลงทุน.