นายยรรยง พวงราช อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดอย่างไม่เป็นทางการว่าตนและพวกกระทำความผิดกรณีนำข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รับผิดชอบไปผลิตเป็นข้าวสารบรรจุถุงแจกจ่ายผู้ประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปี 55 ว่า ประหลาดใจมากที่ ป.ป.ช เพิ่งชี้มูล เพราะ ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 59 โดยไม่มีชื่อตนถูกไต่สวนมาตั้งแต่ต้น แต่ต่อมาปี 63 ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนชุดใหม่แทนชุดเก่า และได้สอบสวนเรื่องนี้ต่อโดยไม่ได้แจ้งให้ตนทราบ และเพิ่งแจ้งให้ทราบเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 ทำให้ตนไม่มีโอกาสคัดค้านคณะกรรมการไต่สวน ทั้งๆ ที่มีสิทธิคัดค้านได้ อีกทั้งยังมีกรรมการบางคนที่เคยโกรธเคือง และตัดสิทธิตนในการคัดค้านการไต่สวน รวมถึงยังมีการนำข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้องมากล่าวหาตนตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ตาม ขอชี้แจงว่า มติของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่อนุมัติให้ทำข้าวสารถุงและอนุมัติให้ อ.ต.ก.เปลี่ยนข้าวจากข้าวที่ได้อนุมัติไว้แล้วก่อนหน้าเป็นข้าวใหม่ เป็นมติที่ถูกต้องชอบธรรม เป็นประโยชน์กับผู้ประสบภัย เพราะข้าวที่เคยได้รับอนุมัติไว้แล้ว เสื่อมสภาพ อีกทั้งปี 54 ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ทำให้ข้าวสต๊อกรัฐบางส่วนเสียหาย อีกทั้งการเปลี่ยนข้าว ไม่ได้ทำให้รัฐเสียหาย เพราะข้าวที่อนุมัติให้ อ.ต.ก. เปลี่ยนก็เป็นข้าวชนิดเดียวกันคือ ข้าวขาว 5% ซึ่ง กขช. เชื่อว่า อ.ต.ก.รู้ดีว่าข้าวเก่าหรือข้าวใหม่เหมาะที่จะนำไปผลิตแจกให้ผู้ประสบภัย ส่วนการที่ กขช.ไม่ได้สั่งตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนลงมติอนุมัติ ก็เพราะ กขช.เคยอนุมัติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปลี่ยนข้าวเก่าเป็นข้าวใหม่ไปผลิตข้าวถุงมาก่อนแล้ว ตามตรรกะ ถ้า กขช.ไม่อนุมัติให้ อ.ต.ก. เปลี่ยนข้าวที่น่าจะผิดปกติ
นอกจากนี้ การบริหารจัดการและกำกับดูแลสต๊อกข้าวรัฐบาล รวมถึงกำหนดมาตรการใดๆ เป็นอำนาจหน้าที่ของ กขช. ไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง “หาก ป.ป.ช. จะกล่าวหาผมกระทำความผิด เพราะไม่ได้สั่งให้ตรวจสอบว่าข้าวเก่าเน่าเสียจริงหรือไม่ จึงไม่ถูกต้อง เพราะผมในฐานะปลัดกระทรวงพาณิชย์ และเลขานุการ กขช. ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่โดยลำพัง ขอยืนยันว่า กขช.ได้ดำเนินการในเรื่องนี้โดยถูกต้องชอบธรรมทุกประการ นอกจากนี้ ผมและ กรรมการทุกท่านได้ทำหน้าที่ในฐานะกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ กขช. อย่างถูกต้องชอบธรรมทุกประการเช่นกัน”.