กูเกิลเปิดข้อมูลท่องเที่ยวไทยยกกระบิความต้องการเดินทางขาเข้าโต 161% ขาออกโต 187% ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องประกัน–แพทย์–อาหารดีดเด้ง คำค้น “ประกันท่องเที่ยว” เพิ่ม 900% ชี้ช่องธุรกิจในระบบนิเวศท่องเที่ยวทั้งหมดต้องให้บริการดิจิทัลที่เปิดตลอดเวลา เรียบง่าย เป็นส่วนตัวและปลอดภัย
นางเอพริล ศรีวิกรม์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Google Cloud (กูเกิล คลาวด์) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ประเทศไทยประกาศยกเลิกข้อจำกัดด้านโควิด-19 ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา ความต้องการเดินทางทางอากาศขาเข้าในประเทศไทยเติบโตอย่างมาก เห็นได้จากปริมาณการค้นหาในกูเกิลเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการเดินทางขาเข้า เพิ่มขึ้น 386% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการฟื้นตัวนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงเดือน มี.ค.2566 ซึ่งมีความต้องการขาเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 161% เมื่อเทียบเป็นช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
เช่นเดียวกับความต้องการเดินทางทางอากาศขาออกจากประเทศไทย ที่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยในวันที่ 1 ต.ค.2565 ความต้องการเดินทางขาออกเพิ่มขึ้น 544% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นการฟื้นตัวที่ดำเนินต่อเนื่องจนถึงเดือน มี.ค. 2566 ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นมากกว่า 187%
นอกจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนแล้ว กูเกิลยังเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประกัน โดยมีการค้นหาคำว่า “ประกันท่องเที่ยวในไทย” หรือ “travel insurance in Thailand” เพิ่มขึ้นจาก มี.ค.ปีก่อนหน้า 900%, ธุรกิจเพื่อสุขภาพ โดยมีการค้นหาคำว่า “การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์” หรือ “medical tourism” เพิ่มขึ้น 500% และธุรกิจอาหาร โดยมีการค้นหาคำว่า “การท่องเที่ยวเชิงอาหาร” หรือ “gastronomy tourism” เพิ่มขึ้น 110%
ขณะเดียวกัน เทรนด์กูเกิลยังชี้ให้เห็นอีกว่า ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อสิ่งแวดล้อมยังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วย โดยคำค้นหาที่เกี่ยวกับ “การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในไทย” หรือ “sustainable tourism in Thailand” เพิ่มขึ้น 200% เมื่อเทียบกับ มี.ค.ปีก่อนหน้า โดย 1 ใน 4 ผู้บริโภคที่ชื่นชอบกระแสดิจิทัลยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อสินค้าและบริการที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
นางเอพริล กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมากกว่า 1 ใน 2 ของผู้บริโภคที่ชื่นชอบกระแสดิจิทัลในไทย ใช้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์อยู่แล้ว และหมวดหมู่นี้คาดว่าจะเติบโตปีละ 22% และมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยกว่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 306,000 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 34 บาท) ภายในปี 2568 ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศของการท่องเที่ยวทั้งหมด จึงไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของการนำเสนอบริการดิจิทัลที่เปิดตลอดเวลา เรียบง่าย เป็นส่วนตัว และปลอดภัย
“ยกตัวอย่างธุรกิจประกันการท่องเที่ยวที่เติบโตสูงมากนั้น ทำให้สถาบันการเงินและผู้ให้บริการด้านสุขภาพต้องหาวิธีเสนอบริการที่เหมาะกับนักเดินทางหรือคนที่มีจุดประสงค์หลักในการรับการรักษา เช่นเดียวกับผู้ประกอบการด้านอาหาร ที่ต้องรีบคว้าโอกาสดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการชิมและนำอาหารไทยต้นตำรับกลับไปทานที่บ้าน”
นางเอพริล กล่าวว่า ข้อมูลเชิงลึกสำคัญที่กูเกิลมี จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อเนื่องในการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาการฟื้นตัวและสร้างการเติบโตแก่การท่องเที่ยวของประเทศได้อย่างเต็มที่ โดยล่าสุดกูเกิลคลาวด์ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท., บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) (SKY) และบริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme) โดยองค์กรเหล่านี้จะใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ข้อมูลแบบเปิดของกูเกิลคลาวด์เพื่อขับเคลื่อนการส่งมอบประสบการณ์การเดินทางแบบดิจิทัลที่ยั่งยืน.