สลายขั้วอำนาจเก่า ศักดิ์สยาม "อธิรัฐ" แผลงฤทธิ์รื้อเก้าอี้รักษาการอธิบดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรณีปมถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น และมีคำสั่งให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เข้ามารับตำแหน่งรักษาการ รมว.คมนาคมนั้น

ล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ นายอธิรัฐได้เรียกประชุมหัวหน้าหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งหมดประชุมเร่งรัดติดตามงบประมาณ และสั่งการว่าหลังจากนี้จะเข้ามาดูแลงานของกระทรวงคมนาคมทั้งหมด โครงการใดดำเนินการล่าช้า หรืองบประมาณส่วนไหนจะดำเนินการเร่งด่วนหรืองบประมาณส่วนไหนดำเนินการเพิ่มเติมได้ นายอธิรัฐจะเป็นคนผลักดันเองทั้งหมด และจะเข้ามาดูแลจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มี.ค. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงคมนาคมยกเลิกคำสั่งกระทรวงคมนาคมที่ 991/2565 ที่แต่งตั้งนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (นักบริหารระดับสูง) ให้เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า (นักบริหารระดับสูง) โดยในคำสั่งให้เหตุผลการยกเลิกคำสั่ง ว่า เพื่อให้การบริหารราชการภายในกรมเจ้าท่าเป็นไปด้วยความเหมาะสม เรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น จึงแต่งตั้งนายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เข้ามาดำรงตำแหน่ง รักษาการ อธิบดีกรมเจ้าท่า โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่รักษาราชการแทนอีกตำแหน่งหนึ่ง แทนนายสรพงศ์ที่ก่อนหน้านี้นายศักดิ์สยามเป็นผู้แต่งตั้งนายสรพงศ์เข้ามา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในข้าราชการกระทรวงคมนาคมกันเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังมีการคาดกันว่า นายอธิรัฐจะเข้ามาแต่งตั้ง โยกย้ายในอีกหลายตำแหน่ง เนื่องจากที่ผ่านมาการแต่งตั้งโยกย้ายภายในกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยามจะเป็นผู้กำกับและมีอำนาจเต็มเพียงคนเดียว

ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัด กระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวตนได้แสดงความสมัครใจที่จะลดภาระบทบาทหน้าที่ลง เนื่องจากได้มีการเข้าไปดำเนินการภารกิจแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินเรือของไทยและผ่านการตรวจประเมินจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (ไอเอ็มโอ) ซึ่งได้มีการตรวจผ่านประเมินเรียบร้อยแล้วในข้อสงสัยที่เป็นประเด็นทั้ง 64 ข้อ ซึ่งถือว่าหมดภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังนั้น ตนจึงแสดงเจตจำนงที่จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงคมนาคม เพียงตำแหน่งเดียว.