ชวนพ่อหมอ-แม่หมอจัดตั้งบริษัท ธุรกิจโชคลางอู้ฟู่ควรสร้างความน่าเชื่อถือ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ชวนพ่อหมอ-แม่หมอจัดตั้งบริษัท ธุรกิจโชคลางอู้ฟู่ควรสร้างความน่าเชื่อถือ

Date Time: 1 มี.ค. 2566 07:54 น.

Summary

  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยความเชื่อโชคลางในไทยมาแรง ดันยอดตั้งธุรกิจด้านความเชื่อพุ่ง ช่วง 3 ปี แนะพ่อหมอ–แม่หมอมาจดทะเบียนตั้งนิติบุคคล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

Latest

จีนเร่งกระจายฐานการผลิต "ผู้ผลิตแบตเตอรี่ - อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง" ตบเท้าลงทุนไทย พุ่ง!

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยความเชื่อโชคลางในไทยมาแรง ดันยอดตั้งธุรกิจด้านความเชื่อพุ่ง ช่วง 3 ปี ตั้งใหม่กว่า 50 ราย ทุนจดทะเบียนกว่า 50 ล้านบาท สินทรัพย์เพิ่มกว่า 50% รายได้เฉพาะปี 64 เพิ่มกว่า 113% แนะพ่อหมอ–แม่หมอมาจดทะเบียนตั้งนิติบุคคล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นมา ความเชื่อในศาสตร์เร้นลับ การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อเสริมดวงและโชคชะตาในประเทศไทย ได้รับความนิยมมากขึ้นแบบก้าวกระโดด เพราะเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมด้านการงาน การเงิน โชคลาภ และความรัก ประกอบกับมีการนำศาสตร์แห่งความเชื่อมาใช้วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ส่งผลให้ธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อสนับสนุนการตลาด มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ปี 63-65 ธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อสนับสนุนการตลาด มีอัตราการจดทะเบียนจัดตั้งเพิ่มขึ้นมาก โดยปี 63 จดทะเบียนจัดตั้ง 11 ราย ทุนจดทะเบียน 7.59 ล้านบาท, ปี 64 จัดตั้ง 20 ราย เพิ่มขึ้น 9 ราย หรือ 81.8% ทุนจดทะเบียน 13.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.82 ล้านบาท หรือ 76.7%, ปี 65 จัดตั้ง 24 ราย เพิ่มขึ้น 4 ราย หรือ 20.0% ทุนจดทะเบียน 27.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.04 ล้านบาท หรือ 104.7%

ขณะที่ผลประกอบการธุรกิจ มีรายได้รวมขยายตัวเช่นกัน โดยปี 63 รายได้รวม 28.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.48 ล้านบาท หรือ 18.5% จากปี 62 ส่วนสินทรัพย์ 47.31 ล้านบาท ลดลง 2.23 ล้านบาท หรือ 4.5% กำไร 1.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.40 ล้านบาท หรือ 35.7% และปี 64 รายได้รวม 61.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.52 ล้านบาท หรือ 113.1% จากปี 63 สินทรัพย์ 71.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.76 ล้านบาท หรือ 50.22% ขาดทุน 1.86 ล้านบาท ลดลง 3.38 ล้านบาท หรือ 222.4%

“ปี 64 แม้รายได้รวมและสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากปี 63 แต่มีผลประกอบการขาดทุน เพราะธุรกิจขยายการลงทุน รองรับการเติบโตหลังโควิด-19 คลี่คลายลง สำหรับการลงทุนในธุรกิจ ส่วนใหญ่เป็นคนไทย มูลค่าการลงทุน 98.55 ล้านบาท คิดเป็น 96.64% ของการลงทุนรวมของธุรกิจ และมีการลงทุนจากต่างชาติ 2 สัญชาติ คือ จีน 2.45 ล้านบาท สัดส่วน 2.40% และฝรั่งเศส 0.98 ล้านบาท สัดส่วน 0.96%”

นายสินิตย์ กล่าวต่อว่า ธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อส่งเสริมการตลาดในประเทศไทย มีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบปริมาณของผู้ประกอบธุรกิจด้านความเชื่อในตลาด ส่วนใหญ่นิยมประกอบกิจการในรูปบุคคลธรรมดา จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจ หากต้องการให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือหรือขยายธุรกิจสู่การให้บริการอื่นๆ การจดทะเบียนนิติบุคคล จะมีส่วนช่วยในการสร้างความน่าเชื่อถือ และต่อยอดทางธุรกิจได้หลากหลายมากขึ้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดลเกี่ยวกับความเชื่อด้านโชคลางของคนไทย พบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การพยากรณ์ (รายวัน รายเดือน รายสัปดาห์) โหราศาสตร์ ลายมือ ไพ่ยิปซี 2.พระเครื่องวัตถุมงคล 3.สีมงคล 4.ตัวเลขมงคล 5.เรื่องเหนือธรรมชาติ ส่วนช่องทางการเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาด้านความเชื่อโชคลาง ส่วนใหญ่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ รองลงมา คือ บุคคลรอบข้าง และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์นั้นๆตามลำดับ

ปัจจุบันธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อสนับสนุนการตลาดที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศ ไทย 93 ราย คิดเป็น 0.01% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ 857,511 ราย และมีมูลค่าทุน 101.98 ล้านบาท คิดเป็น 0.0005% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ 21.36 ล้านล้านบาท  โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ