พาณิชย์เผยเดือน ม.ค.66 ไทยส่งออกข้าวได้ 8 แสนตัน โกยรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท ปริมาณและมูลค่าพุ่งกระฉูด หลังความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นจากเงินบาทอ่อนค่าช่วงปลายปี จับตาต้นปี 66 บาทแข็ง อาจฉุดความต้องการซื้อดิ่ง ส่วนส่งออกมัน ลดลงทั้งปริมาณและมูลค่าเมื่อเทียบ ม.ค.65 เหตุผลผลิตไม่พอขาย
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เดือน ม.ค.66 ไทยส่งออกข้าวได้ 805,518 ตัน มูลค่า 14,277.39 ล้าน บาท ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น 75.20% และ 78.76% ตามลำดับเมื่อเทียบ เดือน ม.ค.65 ที่ส่งออกได้ 459,773 ตัน มูลค่า 7,956 ล้านบาท เป็นผลจากการส่งมอบที่มีต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 65 ประกอบกับช่วงปลายปี เงินบาทอ่อนค่า ทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันกับข้าวคู่แข่งได้ ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเข้ามามากในช่วงปลายปี
นอกจากนี้ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ อิรัก รวมถึงหลายประเทศในตะวัน ออกกลาง สั่งซื้อข้าวไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทั้งปี 65 ส่งออกข้าวไปตะวันออกกลางได้มากถึง 2.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 26% จากปี 64 ที่ส่งออกได้ 630,000 ตัน โดยอิรักนำเข้าเป็นอันดับ 1 และในปี 66 การส่งออกข้าวไปตะวันออกกลางยังเติบโตได้ดี ส่วนการส่งออกข้าวไปทั่วโลกเดือน ก.พ.66 ยังต้องติดตามค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุดค่าเงินแข็งค่าขึ้นกว่าช่วงปลายปี
“ค่าเงินบาทเป็นสิ่งที่ผู้ส่งออกกังวลมาก เพราะมีผลกับราคาข้าวเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งช่วงปลายปีค่าเงินบาทอ่อนค่ามาก แต่กลับมาแข็งค่าช่วงต้นปี ทำให้ราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง อย่างล่าสุดราคาส่งออกข้าวไทย ข้าวขาว 5% ตันละ 470 เหรียญสหรัฐฯ เวียดนาม ตันละ 465 เหรียญฯ ปากีสถาน ตันละ 490 เหรียญฯ อินเดีย ตันละ 435 เหรียญฯ ส่วนข้าวหอม มะลิไทย ตันละ 825 เหรียญฯ ข้าวหอมเวียดนาม ตันละ 560 เหรียญฯ อินเดีย ตันละ 1,250 เหรียญฯ ขณะที่ข้าวนึ่งไทย ตันละ 475 เหรียญฯ ปากีสถาน ตันละ 515 เหรียญฯ อินเดีย ตันละ 385 เหรียญฯ”
อย่างไรก็ตาม การส่งออกข้าวไทยยังมีโอกาสขยายตัวได้ตามเป้าหมายปีนี้ที่ 7.5 ล้านตัน เพราะกรมและกระทรวงพาณิชย์เดินหน้าทำตลาดข้าวไทยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารนานาชาติ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย จีน สหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์ เยอรมนี ฯลฯ รวมถึงสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้าร่วมประมูลนำเข้าข้าวของประเทศต่างๆ อย่างล่าสุดญี่ปุ่นเพิ่งเปิดประมูลนำเข้าข้าวขาว, เกาหลีใต้เปิดประมูลนำเข้าข้าวกล้อง ส่วนข้าวอินทรีย์ หลายประเทศให้ความสนใจ โดยมีตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ฮ่องกง คาดว่าน่าจะส่งออกข้าวอินทรีย์ได้ใกล้เคียงกับปี 65 ที่ประมาณ 21,000 ตัน มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท
นายรณรงค์กล่าวต่อถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเดือน ม.ค.66 ว่า ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ เช่น มันเส้น มันเม็ด แป้งมัน ฯลฯ ปริมาณ 932,973.75 ตัน มูลค่า 11,554.94 ล้านบาท ปริมาณและมูลค่าลดลง 4.75% และ 4.03% ตามลำดับจากเดือน ม.ค.65 ที่ส่งออกได้ 979,462.14 ตัน มูลค่า 12,039.73 ล้านบาท เพราะผลผลิตมันสำปะหลังไทยลดลงจากปีที่ผ่านมาจากปัญหาโรคระบาด และสภาพอากาศที่เกิดน้ำท่วม ภัยแล้งช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่คาดว่า ปีนี้ไทยจะส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังได้ตามเป้าหมายที่ 9 ล้านตัน ลดลงจากปี 65 ที่ส่งออกได้ 11.8 ล้านตัน เพราะผลผลิตปีนี้ลดลงจากปีก่อน แม้ความต้องการซื้อจากทั่วโลกยังมีมาก ทั้งนำไปทำเป็นแอลกอฮอล์ และอาหารสัตว์ทดแทนธัญพืชอื่น ที่ขาดแคลนและราคาแพงจากปัญหาความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนที่ยังคงมีอยู่
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวระหว่างเป็นประธาน มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 65 ครั้งที่ 40 และการประกวด ข้าวถุงคุณภาพดี ประจำปี 65 ว่า ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจ
หลักสำคัญยิ่งของไทย และ ราคาดีขึ้นเป็นลำดับ แต่หากวันใดราคาตก รัฐบาล ยังมีนโยบายประกันรายได้ ชดเชยเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร ซึ่งช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจ่ายเงินส่วนต่างแล้ว 180,000 ล้าน บาท และยังมีเงินช่วยเหลือ อีกไร่ละ 1,000 บาท.