โอกาสลงทุนรับเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

โอกาสลงทุนรับเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย

Date Time: 24 ก.พ. 2566 05:45 น.

Summary

  • บทความ “ลงทุนอะไรดีช่วงเฟดใกล้หยุดขึ้นดอกเบี้ย” ของ ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บ SETINVESTNOW มองว่าการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของเฟด

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้


สัปดาห์ที่แล้ว “คุณนายพารวย” พูดถึงเรื่องปรับพอร์ตลงทุนรับมือกับเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งมีสัญญาณเตือนในหลายประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อปีก่อน และเริ่มปรับลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไป

ทำให้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดสปีดการขึ้นดอกเบี้ยลง ไม่ขึ้นเร็วเท่าปี 65 หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มอ่อนแอลง ทั้งตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.ที่เริ่มลดลง และตัวเลขค้าปลีกที่หดตัว จนนักวิเคราะห์มองว่าเฟดจะลดความร้อนแรงในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อประคองเศรษฐกิจไม่ให้หดตัวแรง

บทความ “ลงทุนอะไรดีช่วงเฟดใกล้หยุดขึ้นดอกเบี้ย” ของ ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บ SETINVESTNOW มองว่าการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของเฟดใกล้จะสิ้นสุดแล้ว และคาดว่าเฟดจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาส 2 ของปีนี้

ดังนั้นตลาดจะเริ่มให้น้ำหนักในจุดนี้ และเข้าลงทุนก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง จึงเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน โดยได้โฟกัสที่กองทุนรวมที่น่าสนใจดังนี้ 1.กองทุนรวมหุ้นพื้นฐานดีกระจายทั่วโลก เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเข้าไปเก็บสะสมหุ้น โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ที่มีพื้นฐานดี ภาระหนี้ไม่สูง มีโอกาสสร้างรายได้ให้เติบโตได้ในภาวะที่เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อตลาดปรับย่อลง หลังนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 65 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดสูงสุด อัตราเงินเฟ้อกำลังย่อลงอย่างชัดเจน และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรง เพียงแต่ชะลอหรืออาจติดลบเล็กน้อยชั่วคราว

ส่วน การลงทุนในฝั่งยุโรป ก็น่าสนใจ หลังปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้รุนแรงจนเกิดวิกฤติพลังงานอย่างที่กังวลกัน แม้ปัญหาเงินเฟ้อจะรุนแรง และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีไปอีกระยะแต่ราคาสินทรัพย์ที่ย่อลงมามากในช่วงก่อนหน้า และได้สะท้อนภาวะที่น่ากังวลไปมากแล้ว

2.กองทุนรวมหุ้นในตลาดเกิดใหม่ มองว่าตั้งแต่ต้นปีมาตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่ ทั้ง จีน อินเดีย และบราซิล รวมทั้งตลาดหุ้นในเอเชียได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวและการเปิดประเทศ โดยภาคการผลิต การบริโภค ธนาคาร และเทคโนโลยี มีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งการกระจายการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง รวมทั้งเงินเฟ้อที่ไม่รุนแรงจะสนับสนุนให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาคนี้มากขึ้น

3.กองทุนรวมหุ้นจีน รัฐบาลจีนลดความเข้มงวดในการคุมโควิด และเปิดประเทศ แม้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว แต่มูลค่าหุ้นจีนยังน่าสนใจ การเปิดประเทศของจีนจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจจีนเติบโตได้ดีกว่าที่คาด รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป แต่ต้องระวังปัญหาหนี้ภาคธุรกิจสูงและปัญหาฟองสบู่ในตลาดอสังหาฯ นักลงทุนอาจหันมาลงทุนหุ้นกลุ่มนวัตกรรมและการบริโภคแทน ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็ก น่าจะเติบโตมากกว่าหุ้นใหญ่

4.กองทุนรวมตราสารหนี้ นักลงทุนอาจหาจังหวะเข้าลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หรือหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูง แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเริ่มย่อตัวลง แต่ยังอยู่ในระดับสูงทำให้ได้ผลตอบแทนต่อเนื่องในระดับที่น่าพอใจ

นักลงทุนมือใหม่ที่อยากวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจ เพื่อจับทิศทางการลงทุน สามารถเข้าไปเรียนรู้ผ่าน e-Learning หลักสูตร “Macro Analysis” หรืออยากวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการลงทุนรายกลุ่มอุตสาหกรรม แนะนำหลักสูตร “Sector Rotation” เรียนฟรีทั้งสองหลักสูตร!!

คุณนายพารวย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ