เศรษฐกิจฟื้นดันดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวทำนิวไฮ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เศรษฐกิจฟื้นดันดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวทำนิวไฮ

Date Time: 10 ก.พ. 2566 06:40 น.

Summary

  • ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สำรวจตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ 2,244 คนว่า ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการ แสดงว่าผู้บริโภคเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สำรวจตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ 2,244 คนว่า ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการ แสดงว่าผู้บริโภคเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.66 อยู่ที่ 51.7 จาก 49.7 ในเดือน ธ.ค.65 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และสูงสุดในรอบ 26 เดือน นับตั้งแต่เดือน ธ.ค.63, ดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ที่ 36.3 เพิ่มจาก 34.6, ดัชนีเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ที่ 59.2 เพิ่มจาก 56.9 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 46.0 เพิ่มจาก 43.9, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 49.0 เพิ่มจาก 47.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 60.2 เพิ่มจาก 58.1 ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ

สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง มาจากมองว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นหลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียที่เริ่มเดินทางเข้ามา ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซินลดลงอย่างมากจากช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพลง รวมทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และเพิ่มกำลังซื้อในต่างจังหวัด เงินบาทแข็งค่า สะท้อนถึงการไหลเข้าสุทธิของเงินตราต่างประเทศ

“การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นต่อเนื่องทุกรายการ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มกลับมาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น และจะเริ่มจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับในไตรมาสแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ยังสูง กังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้น และกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกช้าลงและอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยในอนาคต ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ