“จุรินทร์” เตรียมเจรจาร่วมอียูแสดงเจตจำนงทำเอฟทีเอไทย–อียูที่ประเทศเบลเยียมสัปดาห์นี้ มีลุ้นได้ข้อยุติด้วยดี มีโอกาส แต่ละประเทศจะได้ไปดำเนินการตามขั้นตอนของแต่ละประเทศ เพื่อให้เริ่มนับหนึ่งเพื่อทำให้ไทยส่งออกไปอียูได้เพิ่มขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ จะเดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมืองหลวงของสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อพบกับ นายวัลดิส ดอมโบรฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการด้านการค้าของสหภาพยุโรป ซึ่งเทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรีและ รมต.การค้าของอียู โดยจะประชุมร่วมกันและแสดงเจตจำนงทางการเมืองทั้ง 2 ฝ่าย โดยตน ตัวแทนประเทศไทย จะแจ้งความจำนงว่า ไทย รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ มีความพร้อมที่จะเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-อียู ถ้าอียูเห็นพ้องต้องกัน แต่ละประเทศจะดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของแต่ละประเทศต่อไป ซึ่งการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู เป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ฝ่ายคาดหวังกันมายาวนาน แต่ยังไม่บรรลุผล เพราะติดขัดเรื่องการเจรจาช่วงตั้งแต่ปี 2557 แต่ขณะนี้ มีแนวโน้มที่ดี มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเริ่มต้นเจรจาอย่างเป็นทางการ
“ผลการเดินทางจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประชุมและการเจรจาที่ผมตั้งความหวังว่าจะสำเร็จ จะได้เริ่มนับหนึ่ง เอฟทีเอไทย-อียู ซึ่งเป็นเอฟทีเอที่ภาคเอกชนต้องการมานาน แต่ยังไม่บรรลุผล ถ้าประสบความสำเร็จจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอียูได้มากขึ้น โดยเฉพาะโอกาสทางการค้า ที่ไทยจะส่งออกสินค้าไปยังสมาชิกอียูได้มากขึ้น เพราะเป้าหมายจะลดภาษีระหว่างกันเป็น 0% ทำให้ได้แต้มต่อประเทศคู่แข่งที่ไม่มีเอฟทีเอกับอียู 27 ประเทศ โดยจะทำให้ดีที่สุด ให้มีโอกาสสำเร็จจะเป็นการสร้างอนาคตให้กับประเทศต่อไป”
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาอียูเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 5 รองจากอาเซียน จีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 41,038 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.46 ล้านล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 6.95% ของการค้าไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปอียู 22,794 ล้านเหรียญฯ (810,000 ล้านบาท) สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และแผงวงจรไฟฟ้า และนำเข้าจากอียู 18,243 ล้านเหรียญฯ (648,000 บาท) สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรม และเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานร่วมอิตาเลียน-ไทย บิสซิเนส ฟอรั่ม กล่าวว่า นักธุรกิจชั้นนำของประเทศอิตาลีและประเทศไทยได้ร่วมเจรจาทางการค้าในการประชุมอิตาเลียน-ไทย บิสซิเนส ฟอรั่ม ครั้งที่ 8 เมื่อเร็วๆนี้ โดยปีนี้มีนักธุรกิจชั้นนำจากอิตาลีและประเทศไทยเข้าร่วมรวม 25 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทจากอิตาลี 12 บริษัท และไทย 13 บริษัท เช่น ธุรกิจพลังงาน, เครื่องจักรอุตสาหกรรม, การบิน, การเงินและประกันภัย เพื่อให้ข้อมูลการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างบริษัทสมาชิก อิตาลีและไทย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการค้ารวมกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.