นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ ว่า กรมได้วางแผน การทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นภายหลังโควิด-19 คลี่คลาย และนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยมากขึ้น โดยกรมจะร่วมกับ กอ.รมน. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบและเฝ้าระวังในพื้นที่ย่านการค้าสำคัญที่เคยขายสินค่าละเมิดมากๆ อย่างในย่านท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
รวมถึงร่วมมือกับกรมศุลกากรสกัดกั้นการลักลอบขนส่งสินค้าละเมิดบริเวณชายแดนและด่านการค้าตามแนวชายแดนอย่างจริงจัง ส่วนการขายสินค้าละเมิดทางออนไลน์กรมจะร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ เจ้าของแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ ป้องกันการละเมิดและสืบสวนจับกุมผู้กระทำละเมิดที่ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงผู้บริโภค เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการค้าการลงทุนในประเทศ และป้องกันความเสียหาย หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากการใช้สินค้าปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน
“การทำงานเชิงรุกนี้กรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และในปี 65 แม้มีโควิดระบาด ก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 65 ไม่มีรายชื่อย่านการค้า หรือตลาดขายสินค้าออนไลน์ของไทยปรากฏอยู่ในรายงานตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลก (Notorious Markets) ของสหรัฐฯเลย ขณะเดียวกัน ปี 65 กรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ค้าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวม 5,827 คดี ยึดของกลางได้ 2.308 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหาย 1,058 ล้านบาท”.