เป็นอาจารย์สอนวิชาสื่อสารมวลชนประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาครึ่งค่อนชีวิต ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. จึงแสดงความเห็นอกเห็นใจสื่อมวลชนทุกครั้ง เวลาที่ไม่สามารถให้ข่าวหรือเปิดเผยข้อมูลที่สื่อต้องการได้
“บางครั้งพี่ไม่มีอำนาจพูด หรือบางทีกรรมการไม่ได้คิดเห็นไปในทางเดียวกัน จึงต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราเป็นกรรมการเสียงข้างน้อยด้วย แต่พี่เห็นใจและเข้าใจการทำงานของนักข่าวนะ”
มาถึงประเด็นการต่อสู้ในฐานะกรรมการเสียงข้างน้อยที่โหวตทีไรก็แพ้ตลอด มีท้อหรืออยากย้อนเวลากลับไป บ้างไหม คำตอบคือ “ไม่”...“การทำงานมีความยาก เผอิญบอร์ดชุดนี้เจอแต่เรื่องโหด เข้ามาก็เจอกรณีทรูควบรวมดีแทค ลิขสิทธิ์บอลโลก ปีนี้ต้องพิจารณาวาระเอไอเอสซื้อ 3BB อีก แต่ถือว่าเราเลือกแล้ว ตั้งใจจะทำให้ดีในส่วนที่รับผิดชอบ”
ถามว่าทำไมจึงมาสมัครเป็นกรรมการ กสทช. ดร.พิรงรอง เล่าว่า คุณพ่อวัย 90 ปีเศษ เป็นคนแนะนำ ถามต่อว่าเป็นเด็กเส้นนายกรัฐมนตรีหรือเปล่า ดร.พิรงรองตอบขำๆ “ไม่รู้เลย น่าจะเป็นเด็กเส้นพ่อมากกว่า คุณพ่อบอกว่าเป็นอาจารย์มานาน ไม่มีอะไรท้าทายแล้ว ไปสมัครเป็นกรรมการ กสทช.สิ ได้ทำอะไรที่ท้าทายมากกว่า”
บทสรุปแห่งความท้าทาย จึงเป็นไปตามวาจาที่คุณพ่อว่าไว้.