นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างทาบทามผู้ผลิตและนำเข้ารถยนต์เทสล่า เพื่อเข้าร่วมโครงการมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อุดหนุนส่วนลด 18,000-150,000 บาทต่อคัน เนื่องจากจะทำให้มีค่ายรถยนต์ที่มาร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันได้มีการลงนามร่วมกับค่ายรถยนต์แล้ว 12 ราย และคาดว่าปี 66 จะมีการลงนามร่วมกับค่ายรถยนต์ฮอนด้าอีกรายด้วย
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิต อยู่ระหว่างหารือค่ายรถยนต์ทั้งผู้นำเข้าและผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อจัดทำนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ตั้งแต่การผลิตแบตเตอรี่ และผลิตรถยนต์ทั้งคัน ภายใต้หลัก ESG ที่มาจาก Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) และนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) โดยเฉพาะประเด็นแบตเตอรี่ที่ต้องหารือกันอย่างจริงจังว่าจะส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่ การสนับสนุนการนำกลับมาใช้ใหม่ (รีไซเคิล) ในรูปแบบใด ทั้งการจัดเก็บอัตราภาษีจากปัจจุบันจัดเก็บในอัตรา 8% “แบตเตอรี่ ถือเป็นประเด็นหลักของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งาน 8 ปี ซึ่งต้องวางแผนให้ใช้ซ้ำหรือมีวิธีการอื่นๆ มิเช่นนั้น จะมีขยะแบตเตอรี่จำนวนมากในอนาคต จะไม่สอดคล้องกับนโยบาย ESG และ BCG ดังนั้นต้องหารือเรื่องนี้อย่างครบวงจร”
นายเอกนิติกล่าวว่า กรมสรรพสามิตได้จ่ายเงินอุดหนุนให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์แล้วจำนวน 540 คัน และอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อจ่ายเงินอุดหนุนอีก 1,297 คัน คาดว่าจะมียอดจองและยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ขอรับสิทธิตามมาตรการ ภายในสิ้นปี 65 ทั้งสิ้นกว่า 25,000 คัน.