อดใจรอ "ของขวัญปีใหม่" ยังไม่คลอด "บิ๊กตู่" ขอเวลาตรวจเข้มหวั่นภาระการคลังพุ่ง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

อดใจรอ "ของขวัญปีใหม่" ยังไม่คลอด "บิ๊กตู่" ขอเวลาตรวจเข้มหวั่นภาระการคลังพุ่ง

Date Time: 7 ธ.ค. 2565 07:42 น.

Summary

  • นายกฯขอให้รอ ครม.พิจารณาของขวัญปีใหม่วันที่ 20 ธ.ค. ชี้ต้องดูก่อนว่างบประมาณมีเพียงพอหรือไม่ ไม่ต้องการสร้างภาระการเงินการคลังวันข้างหน้า โชว์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 10 ล้านคน

Latest

“เจ้าสัวธนินท์” มองโลก มองธุรกิจ เชื่อมือ รัฐบาล ดันไทยเป็น “ฮับการเงิน” ปลุกผู้ค้าก้าวทัน AI-เทคฯ

นายกฯขอให้รอ ครม.พิจารณาของขวัญปีใหม่วันที่ 20 ธ.ค. ชี้ต้องดูก่อนว่างบประมาณมีเพียงพอหรือไม่ ไม่ต้องการสร้างภาระการเงินการคลังวันข้างหน้า โชว์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 10 ล้านคนตามเป้า สั่งคมนาคมเจรจาจัดหาเที่ยวบินเข้าไทยเพิ่ม หลังพบนักท่องเที่ยวหาตั๋วไม่ได้ “อนุทิน” ค้าน เปิดผับตี 4 ชี้ตี 2 เหมาะสมแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การพิจารณาของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนว่า ตอนนี้ยังทยอยพิจารณาไป ยังมีเวลาอยู่ หลายๆอย่างเป็นมาตรการต่างๆที่เป็นของหน่วยงานยังไงต้องดูให้รอบคอบ ก็พยายามจะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่ทำเพื่อการเมือง แต่เป็นสิ่งที่เราทำมาทุกปีอยู่แล้ว อะไรที่ทำได้เราก็ทำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย ก็ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด

“ส่วนที่ประชุม ครม.วันที่ 6 ธ.ค.นี้ยังไม่มีโครงการช้อปดีมีคืนและเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ยังไม่ออกมา เพราะต้องดูงบประมาณที่มีอยู่เพียงพอหรือเปล่า อันไหนทำได้อันไหนทำไม่ได้ อันไหนที่ทำแล้วจะเป็นปัญหาต่อไปในวันข้างหน้า ก็ต้องดูให้ดี ถ้าเรามองการเมืองอย่างเดียว แน่นอนทุกคนต้องการมากที่สุดดีที่สุด แต่ในฐานะที่เป็นนายกฯก็ต้องให้มีการตรวจสอบคัดกรองให้ดี ซึ่งอยากทำให้ประชาชน แต่ไม่อยากสร้างภาระทางการเงินการคลังในวันข้างหน้า และต้องดูข้อกฎหมายด้วย ซึ่งในเดือน ธ.ค.ยังมีเวลาพิจารณา โดยขอตัดสินใจอีกครั้งในการประชุม ครม.หลังจากที่ตนกลับจากการไปร่วมประชุมอาเซียน-ยุโรป ที่ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้”

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สำหรับของขวัญปีใหม่ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะรวบรวมเป็นแพ็กเกจเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาวันที่ 20 ธ.ค.65 โดยสาเหตุที่ต้องเลื่อนออกไปนั้น เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ ในระหว่างการประชุม ครม. ว่า นายกฯกล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ขณะนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าภายในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 10 ล้านคน ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน รวมถึงมีการเร่งตัวของภาคอุปโภค บริโภคและการจ้างงานที่มีรายได้แรงงานปรับเพิ่มขึ้นและกระจายตัวทั่วถึงมากขึ้น

“ในส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นนั้น นายกฯมีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาเพิ่มเที่ยวบิน โดยให้เจรจากับประเทศต่างๆ ที่สามารถเพิ่มไฟลท์การบินเข้ามาในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเข้ามาในประเทศไทย แต่ไม่สามารถหาตั๋วเครื่องบินได้ รวมถึงเพิ่มพนักงานภาคพื้นดินในการบริการ”

นอกจากนี้ นายกฯพูดถึงการจัดอันดับของ ฟิทซ์ เรทติ้งส์ ที่คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ โดยทางฟิทซ์คาดว่าเศรษฐกิจไทย ในปี 2565 จะขยายตัวอยู่ที่ 3.3% และจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ในปี 2566 จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ และอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มผ่อนคลาย

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ยังมีข้อเสนอเรื่องการเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ว่า คณะกรรมการของกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุม และมีมติว่ายังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว ส่วนที่หลายคนมองว่าอยากให้เปิดเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้น เราต้องพยายามรักษาสมดุลในทุกมิติไว้ และในช่วงเวลานี้ก็ขยายถึงเวลา 02.00 น. น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในสถานการณ์ที่ยังมีการระบาดของโควิด-19 และไม่ต้องการให้มีอุบัติเหตุจากการดื่มสุรา ส่วนเงื่อนไขเสนอให้เปิดในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ แต่ผลก็ออกมาเหมือนกัน และตรงนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณา ซึ่งเราก็เคารพเสียงส่วนใหญ่อยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมของขวัญในช่วงปีใหม่ให้กับประชาชนอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเน้นย้ำฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 และมีแพ็กเกจดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ที่กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการ นอกจากนั้น การเดินทางกลับบ้านในช่วงปีใหม่ขอเน้นย้ำเรื่องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนเดินทางจะเป็นเรื่องดี.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ