จากความสำเร็จของโครงการ Care the Bear โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 มาจนถึงปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า วันนี้ โครงการ Care the Bear ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับสากล หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการร่วมเป็น APEC Communication Partner สื่อสารการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค 2022 พร้อมกับการออกบูธแสดงศักยภาพของตลาดทุนไทย และบทบาทการส่งเสริมการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน ระหว่างการจัดงานประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เมื่อวันที่ 14-19 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
โครงการ Care the Bear “ลดโลกร้อน” เป็นหนึ่งในโครงการภายใต้แพลตฟอร์มความร่วมมือลดภาวะโลกร้อน (Climate Care Collaboration Platform) ภายใต้แนวคิด “Change the Climate Change” โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับองค์กรภาคีหลัก คือ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และพันธมิตรร่วมขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจดทะเบียน บริษัทจำกัด หน่วยงานภาครัฐ สมาคม สถาบันการศึกษา โรงแรม สถานที่จัดการประชุม และกิจการเพื่อสังคม ช่วยกันขับเคลื่อนการลดภาวะโลกร้อนด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดกิจกรรมขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม onsite หรือ online เช่น การประชุม การอบรม การจัดงานอีเวนต์ งานมอบรางวัล การประชุมผู้ถือหุ้น กิจกรรม CSR ก็ดี
ปัจจุบันโครงการ Care the Bear มีองค์กรพันธมิตรกว่า 321 องค์กร (ข้อมูล ณ ต.ค.2565) และได้ร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว 16,796 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเทียบเท่าการดูดซับ CO2 / ปีของต้นไม้จำนวน 1,866,266 ต้น (ข้อมูลล่าสุด ณ ต.ค. 2565)
การประชุมเอเปคครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้นำเสนอบทบาทการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยโครงการ Care the Bear ออกสู่สายตาชาวโลก ผ่านการจัดการพื้นที่ “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ในการประชุมเอเปค 2022 รวมถึงพื้นที่จัดบูธนิทรรศการขององค์กรต่างๆ รวมพื้นที่ทั้งหมด 22,000 ตารางเมตร เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานและทรัพยากรในการจัดกิจกรรม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและองค์กรพันธมิตรที่ร่วมออกบูธในการประชุมเอเปค 2022 เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับวาระการประชุมเอเปคครั้งนี้ ที่มีแนวคิด Bio - Circular - Green Economy Model (BCG) เป็นพื้นฐานสำคัญ
การนำ Care the Bear ไปขับเคลื่อน “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ในการประชุมเอเปค 2022 ครั้งนี้ มีการส่งเสริมให้องค์กรที่ร่วมออกบูธในงาน รวมทั้งผู้ร่วมงาน เข้าใจและนำหลักปฏิบัติ 6 Cares ไปใช้ ซึ่งประกอบไปด้วย 1.การเดินทางโดยรถสาธารณะหรือเดินทางมาร่วมกัน, 2.การลดใช้กระดาษและพลาสติก, 3.การงดการใช้โฟม, 4.การลดใช้พลังงาน, 5.การใช้วัสดุตกแต่งที่สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ และ 6.การลดขยะจากอาหารเหลือทิ้ง โดยจะมีการนำข้อมูลจากการดำเนินการตามหลัก 6 Cares ช่วงการประชุมเอเปค ไปประเมินการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในงาน
เพราะองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบและวิธีการเดินทาง, ประเภทวัสดุ, ปริมาณพลังงาน ตลอดจนสิ่งเหลือทิ้งจากการจัดงาน ล้วนเป็นกิจกรรมของมนุษย์ที่เป็นแหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งโครงการ Care the Bear คำนึงถึงในทุกมิติ หลักปฏิบัติดังกล่าว จะส่งผลให้การจัดอีเวนต์ในทุกระดับ สามารถดำเนินไปโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นการจัดอีเวนต์แบบลดโลกร้อน นั่นเอง
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าว ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งหวังให้นานาประเทศเห็นถึงการขับเคลื่อนความยั่งยืนดูแลสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ที่ปฏิบัติได้จริง วัดผลได้ เป็นต้นแบบและนำไปสู่การสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรต่าง ๆ และขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต
เป็นเรื่องที่น่ายินดีเมื่อมีรายงานประเมินการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปค 2022 ว่า ความสำเร็จของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ สามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 30,295.40 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 3,366 ต้น
หากแยกเป็นแต่ละมิติ ตลอดช่วงการจัดการประชุมเอเปค 2022 มีรายงานว่า จากการสำรวจผู้จัดงานและผู้ร่วมงานปฏิบัติตามหลักปฏิบัติ 6 Care ของโครงการ Care the Bear ส่วนใหญ่เลือกเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า และใช้บริการ Shuttle Bus ทำให้ลดก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางได้ 5,343.59 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 594 ต้น
ตลอดจน ผู้ร่วมงานยังให้ความร่วมมือและเข้าใจหลักการคัดแยกขยะ ทำให้มีปริมาณขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ จำนวนเกือบ 100 %
นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานให้ความร่วมมือที่จะตักอาหารแต่พอดี ทำให้การคัดแยกขยะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 11,383.82 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 1,265 ต้น
และการจัดบูธในงาน APEC ผู้ร่วมออกบูธต่างให้ความร่วมมือที่จะนำวัสดุตกแต่งกลับไปใช้ซ้ำในการจัดบูธครั้งต่อไป คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 5,043.37 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 560 ต้น
นอกเหนือจากความภาคภูมิใจที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีส่วนร่วมกับการประชุมครั้งสำคัญระดับโลกอย่างเอเปค 2022 แล้ว ยังเป็นการแสดงให้นานาชาติเห็นว่า โครงการ Care the Bear เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยสร้างจิตสำนึก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของสมาชิกในองค์กร หรือชุมชน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สามารถนำไปปฏิบัติและวัดผลได้จริง
ที่สำคัญ คือ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงภาพของตลาดทุนไทยที่มีความเป็นตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำ และศักยภาพบริษัทจดทะเบียนไทย ที่สามารถเติบโตอย่างสมดุล และยั่งยืน โดยดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้อย่างชัดเจน!