“ฟิตซ์ เรตติ้ง” คงอันดับไทย BBB+

นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท ฟิตซ์ เรตติ้ง จำกัด (Fitch Ratings) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ ดังนี้

1.ฟิตซ์เรตติ้ง คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 3.3% และเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ในปีหน้าสูงกว่ากลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ ระดับเดียวกันมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2% โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ คือการฟื้นตัวอย่างมากของภาคการท่องเที่ยว คาดว่านักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นจาก 10.3 ล้านคน ในปีนี้เป็น 24 ล้านคนในปีหน้า เนื่องจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบและประกาศปรับโรคโควิด-19 จากการเป็นโรคติดต่อร้ายแรงเป็นโรคประจำถิ่น ตลอดจนอุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และอัตราเงินเฟ้อที่ผ่อนคลาย

2.ภาคการคลังสาธารณะอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เนื่องจากมีกรอบนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่เข้มแข็ง โดยฟิตซ์ เรตติ้ง คาดว่าการขาดดุลงบประมาณของไทย มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ลดลงตามสถานการณ์การระบาดโควิดที่คลี่คลายจาก 6.8% เมื่อปีที่ผ่านมา เป็น 4.9% และ 3.8% ในปีนี้ และปี 2566 ตามลำดับ และคาดว่าจะยังอยู่ในระดับดังกล่าวในระยะต่อไป

ทั้งนี้ ระดับการขาดดุลดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ และรัฐบาลมีพื้นที่ทางการคลัง ที่สามารถรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในอนาคต อีกทั้งรัฐบาลสามารถ เข้าถึงแหล่งเงินทุนในประเทศได้ทุกสถานการณ์ และหนี้สาธารณะคงค้างส่วนใหญ่เป็นหนี้สกุลเงินบาทจึงช่วยลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยประเด็นที่ฟิตซ์เรตติ้ง ให้ความสนใจและจะติดตามอย่างใกล้ชิด คือการดำเนินมาตรการด้านอัตราเงินเฟ้อ สัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือนต่อจีดีพี และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง.