นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือสองฝ่าย กับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา หรือยูเอสทีอาร์ ว่า ได้ขอให้สหรัฐฯพิจารณาถอดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา (ดับบลิวแอล) ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ที่ยูเอสทีอาร์จะประกาศผลการทบทวนสถานะประเทศคู่ค้าด้านทรัพย์สินทางปัญญาในเดือน เม.ย.66 เพราะที่ผ่านมา กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ทำงานร่วมกับยูเอสทีอาร์ในการแก้ไขปัญหาด้านทรัพย์สินทางปัญญาต่อเนื่อง
“ประเทศที่ยังติดบัญชีดับบลิวแอลมีด้วยกัน 19 ประเทศ ซึ่งมีไทยอยู่ในนั้น หากสหรัฐฯพิจารณาปลดออกจากบัญชีนี้ ไทยจะไม่ติดอยู่ในบัญชีใดๆ และจะทำให้สถานะประเทศไทยด้านการให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญาดูดีขึ้น และมีภาพลักษณ์ทางการค้า เศรษฐกิจ การลงทุนที่ดีขึ้นสำหรับหลายประเทศในโลกในอนาคตต่อไป”
อย่างไรก็ตาม ยูเอสทีอาร์ขอให้ไทยร่วมมือในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก ที่สหรัฐฯเป็นผู้ริเริ่ม ซึ่งจะมี 4 เสาหลัก ทั้ง 1.การค้า 2.ห่วงโซ่การผลิต 3.พลังงานสะอาด 4.ปราศจากการทุจริต เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เป็นธรรมให้เกิดขึ้น ซึ่งไทยแสดงเจตจำนงการเข้าร่วมแล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อถึงการประชุมร่วมรัฐมนตรีการค้าและรัฐมนตรีต่างประเทศเอเปกว่า ที่ประชุมสามารถออกแถลงการณ์ร่วมเห็นชอบให้สมาชิกขับเคลื่อนเป้าหมายกรุงเทพฯด้านบีซีจี โมเดล เพื่อทำให้เศรษฐกิจภูมิภาคเติบโต, ขับเคลื่อนความตกลงการค้าเสรีเอเปก เป็นต้น ซึ่งถือว่าการประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ.