นายวรงค์ สราญฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานเหมืองทองคำอัครา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการกลับมาผลิตทองคำของเหมืองทองอัครา จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิจิตร ภายหลังรัฐบาลต่ออายุประทานบัตร ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรม และออกอาชญาบัตรพิเศษเพื่อการสำรวจแร่ทองคำ ว่า บริษัทพร้อมลงทุนในไทยต่อ ขณะนี้ซ่อมแซมเครื่องจักรและโรงประกอบโลหกรรมครั้งใหญ่ รวมถึงอาคารสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในเหมือง โดยใช้ทุน 500 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ก่อนเปิดทำเหมือง บริษัทต้องทำหนังสือแจ้งหน่วยงานรัฐที่เป็นผู้กำกับดูแลให้ทราบไม่น้อยกว่า 15 วัน และต้องนําเจ้าหน้าที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เข้ามาตรวจสอบ หากผ่าน และได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจาก กพร. แล้วจึงจะเริ่มทําเหมืองได้ นอกจากนี้ ยังต้องวางหลักประกันการฟื้นฟูการทำเหมือง และจัดทำประกันภัยความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ตามที่ กพร.ได้กำหนด
พร้อมกันนั้น บริษัทได้รับสมัครพนักงานรอบแรก 160 อัตรา รองรับแผนดำเนินงานระยะแรก ซึ่งจะใช้โรงประกอบโลหกรรมที่ 2 โรงเดียว กำลังการผลิต 2.7 ล้านตันต่อปี หลังจากกลับมาดำเนินการแล้วระยะหนึ่ง จึงจะซ่อมโรงประกอบโลหกรรมที่ 1 กำลังการผลิต 2.3 ล้านตันต่อปี หลังจากนั้น จึงจะรับพนักงานเพิ่ม คาดจะเกิดการจ้างงานทั้งโดยตรงและผ่านผู้รับเหมาร่วม 1,000 อัตรา ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่าข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอัครานั้น กพร.ประเมินว่าจะได้ข้อยุติภายในสิ้นปีนี้ หลังคณะอนุญาโตตุลาการเลื่อนการออกคำชี้ขาด (คำตัดสิน) ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.65.