"บิ๊กตู่" ชู 3 แกนเร่งเครื่องประเทศไทย หนุนเต็มสูบ! ผุดฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้ากระหึ่มโลก

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"บิ๊กตู่" ชู 3 แกนเร่งเครื่องประเทศไทย หนุนเต็มสูบ! ผุดฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้ากระหึ่มโลก

Date Time: 28 ต.ค. 2565 05:08 น.

Summary

  • “ประยุทธ์” ประกาศเร่งเครื่องประเทศไทย ภายใต้ 3 แกน โชว์เดินหน้าได้ไกลแล้ว เร่งทำโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ปั้นไทยเป็นฐานยานยนต์ไฟฟ้า มั่นใจสำเร็จแน่ใน 12 เดือนข้างหน้า

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

“ประยุทธ์” ประกาศเร่งเครื่องประเทศไทย ภายใต้ 3 แกน โชว์เดินหน้าได้ไกลแล้ว เร่งทำโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ปั้นไทยเป็นฐานยานยนต์ไฟฟ้า มั่นใจสำเร็จแน่ใน 12 เดือนข้างหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาในงานบางกอกโพสต์ ฟอรั่ม 2022 ในหัวข้อ “Accelerating Thailand” (เร่งเครื่องประเทศไทย) ว่า รัฐบาลได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ 3 แกนอย่างต่อเนื่อง ที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับคนไทยนับล้าน ให้มีความมั่งคั่งมากขึ้น อย่างยั่งยืน เรียกสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ว่า เชื่อมไทยเดินหน้า วันนี้ดีใจที่จะบอกว่า เราเดินมาได้ไกลแล้ว

ระบบรางเทียบเท่าโตเกียว

“โดยแกนที่ 1 คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง มีสิ่งพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วเป็นร้อยๆปีว่า คือวิธีการที่ดีที่สุดในการเร่งสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชนในทุกระดับของประเทศ

การมีระบบคมนาคมทางราง ทางถนน สนามบิน ท่าเรือทางทะเล และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ทุกคนซื้อข้าวของต่างๆได้ในราคาที่ถูกลง ทำสิ่งต่างๆได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น หาลูกค้าได้มากขึ้น หาที่ทางค้าขายผลผลิต สินค้า และบริการได้มากขึ้น ตลอดจนนำพานักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเข้าประเทศมากขึ้น ทั้งยังทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศได้มากขึ้นด้วย นี่คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนสามารถทำมาหากินช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น”

ตั้งแต่ปี 2558 รัฐบาลได้ริเริ่มโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เป็นโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางอย่างบูรณาการ เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ใหญ่ เมื่อทุกส่วนแล้วเสร็จจะเป็นการเปิดประตูเดินหน้าสู่ช่วงเวลาที่จะเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองที่สุด ยุคหนึ่งของประเทศไทย

“ผมจะทำให้ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมืองของกรุงเทพฯอยู่ในระดับเดียวกับที่โตเกียวและใกล้เคียงกับที่ลอนดอน ในเรื่องของระยะทางและจำนวนสถานี สายสีชมพู และสายสีเหลือง ใกล้จะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ และจะเปิดให้บริการในไม่ถึง 6 เดือนข้างหน้า”

เปิดชื่อบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าในไทย

สำหรับแกนที่ 2 คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และการเกษตรสมัยใหม่ โดยอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลกในอนาคต ไทยต้องรีบเตรียมความพร้อมและก้าวเข้าสู่เทรนด์โลกนี้ให้ได้ เพราะคือหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดของโลก ในการสร้างความมั่งคั่ง ได้อีกเป็นสิบๆปีนับจากนี้ สร้างงาน สร้างโอกาส และสร้างความกินดีอยู่ดีให้คนเป็นล้านๆ เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้ผลิตยานยนต์ปัจจุบันและผู้ผลิตรายใหม่ๆ เลือกหาที่ตั้งโรงงานผลิตรูปแบบใหม่ๆ ดังนั้น เราต้องเดินหน้าให้เร็วกว่าประเทศอื่น ในการดึงเอาฐานการผลิตยานยนต์เข้ามาอยู่ในไทย ถ้าสำเร็จจะทำให้ไทยอยู่บนเส้นทางของความเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้อีก 20-30 ปีข้างหน้าและจะได้บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทซอฟต์แวร์ และบริษัทในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆตามมาด้วย ประเทศไทยจะไม่ใช่เป็นเพียงประเทศผลิตยานยนต์ ไฟฟ้า แต่จะเป็นประเทศเทคโนโลยีที่สำคัญด้วย

“ฟ็อกซ์คอนน์หนึ่งในผู้ผลิตเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตโทรศัพท์ไอโฟนที่ใหญ่ที่สุดได้ยืนยันกับผมแล้วว่า จะตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ขณะที่ BYD ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ก็ได้ยืนยันแล้วว่า จะตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ถือว่าเป็นความสำเร็จของเราที่ได้ปฏิบัติการเชิงรุกในการดึงดูดผู้ผลิตรายใหม่ๆในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย นอกจาก 2 บริษัทนี้แล้ว ก็ยังมี MG, GWM (เกรท วอล มอเตอร์), โวลต์ (Volt) และผู้ผลิตรถยนต์ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยมายาวนาน อย่างเบนซ์ และ TOYOTA ก็ยืนยันจะใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตรถยนต์ ไฟฟ้าเช่นกัน”

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตั้งเป้าที่จะทำสิ่งต่างๆนี้ให้สำเร็จเรียบร้อยภายในไม่เกิน 12 เดือนข้างหน้านี้ และเมื่อทำสำเร็จได้จะเป็นเหมือนเราเร่งเครื่องผ่านเนินเขาช่วงที่ชันที่สุดไปได้ แล้วประเทศไทยก็จะวิ่งต่อไปข้างหน้า สู่การเป็นประเทศผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้ในที่สุด

สำหรับการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวของพี่น้องเกษตรกร จะเร่งนำเทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรมมาใช้ในการปรับโครงสร้างการผลิต เพื่อให้เกิดผลผลิตมากขึ้นในพื้นที่เพาะปลูกที่มีอยู่ และมุ่งไปสู่เกษตรปลอดภัย จะส่งเสริมให้เกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี งานวิจัย และเครื่องจักรกลทางการเกษตร และแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ จะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และราคาสูงขึ้น มีรายได้มากขึ้น

ชื่นชมแบงก์ไทยฝีมือเยี่ยม

แกนที่ 3 ของกลยุทธ์ ที่จะช่วยสร้างความรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนให้แผ่กว้างไปทั่ว คือ ภาคการธนาคาร ซึ่งเงินกู้จากธนาคาร จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุด ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับประชาชนในการทำมาหารายได้ แต่เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรไทย ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ จึงขอให้ธนาคารต่างๆเร่งหาวิธีการใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการประเมินความสามารถของผู้กู้ ที่เป็นคนตัวเล็ก ธุรกิจค้าขายเล็กๆและคนที่ทำมาหาเลี้ยงตัวเอง โดยพิจารณาบนพื้นฐานความสามารถ และความตั้งใจที่จะชำระคืนเงินกู้ จะเปิดโอกาสให้คนจำนวนหนึ่งจาก 30 ล้านคนที่ไม่เคยกู้เงินธนาคารได้ ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความรุ่งเรืองให้กับประเทศ

“ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นว่า ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำหลายแห่งเดินหน้าประกาศเร่งการทำงานในทิศทางนี้ และหนึ่งในธนาคารเหล่านั้นประกาศเดินหน้าโครงการมูลค่ามหาศาล ถึง 100,000 ล้านบาท เพื่อช่วยทำให้การเงินการธนาคารเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยการนำเอาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาใช้ ผมเชื่อว่า ผู้บริหารของธนาคารต่างๆซึ่งมีความเป็นมืออาชีพชั้นเยี่ยม จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงได้อย่างแน่นอน จะช่วยยกระดับประเทศไทยให้เดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดีของพี่น้องคนไทย รวมถึงอนาคตที่ดีของธนาคารต่างๆ”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ