สคบ.ขู่ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์-จักรยานยนต์ หากไม่ทำตามกฎหมายใหม่ เจอโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ย้ำอัตราดอกเบี้ยใหม่ รถยนต์ใหม่ไม่เกิน 10% ต่อปี รถยนต์ใช้แล้วไม่เกิน 15% ต่อปี และรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% ต่อปี พร้อมให้มีส่วนลดค่างวดกรณีชำระก่อนครบสัญญา
นายอุฬาร จิ๋วเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า หลังจากประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2565 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ม.ค.2566 เป็นต้นไป หากผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ไม่ทำตามกฎหมายนี้ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มาตรา 57 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ประกาศฉบับนี้จะช่วยดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมจากธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์-จักรยานยนต์ได้มากขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในการดำเนินการเชิงรุก เพื่อเป็นการหามาตรการในการช่วยเหลือผู้บริโภคและแก้ไขปัญหาหนี้สินของผู้บริโภคที่ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์-รถจักรยานยนต์ ที่ได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับรายได้และได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพจากสถานการณ์โควิด-19 โดยกำหนดแนวทางควบคุม หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย และในช่วงระหว่างการรอให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ สคบ.จะทำการชี้แจงกลุ่ม และภาคส่วนต่างๆให้เข้าใจถึงกฎหมายนี้ด้วย”
ทั้งนี้ ภายใต้ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ควบคุมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์-จักรยานยนต์ ที่ สคบ.ออกมาครั้งนี้ กำหนดสาระสำคัญไว้หลายส่วน สรุปได้ 4 ส่วนหลัก ดังนี้ 1.การกำหนดกรอบอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ มี 3 ประเภท คือ รถยนต์ใหม่ต้องไม่เกินอัตรา 10% ต่อปี รถยนต์ใช้แล้วต้องไม่เกินอัตรา 15% ต่อปี และรถจักรยานยนต์ต้องไม่เกิน 23%ต่อปี
2.หากผู้บริโภคนำเงินมาชำระค่างวดครบก่อนกำหนด (ปิดบัญชี) จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยในการปิดค่างวดเป็นขั้นบันได มี 3 กรณี ดังนี้ กรณีชำระค่างวดไม่เกิน 1 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่า 60% ของดอกเบี้ย เช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ กรณีชำระค่างวด 2 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่า 70% ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ และกรณีชำระค่างวดเกินกว่า 2 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับส่วนลดทั้งหมดของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
3.ติ่งหนี้ในกรณีนำรถออกขายทอดตลาด หากผู้บริโภคถูกยกเลิกสัญญา และผู้ให้เช่าซื้อนำรถออกขายทอดตลาด โดยปกติแล้วผู้บริโภคต้องรับผิดชอบค่างวดที่ค้างอยู่ตามสัญญา ประกอบด้วยเงินต้นและดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ ซึ่งประกาศฉบับนี้ให้คิดได้เฉพาะเงินต้นเท่านั้น 4. การคิดเบี้ยปรับในการผิดนัดชำระ กรณีผู้บริโภคชำระค่างวดล่าช้า หรือผิดนัดชำระค่างวด ผู้ให้เช่าซื้อสามารถคิดเบี้ยปรับจากผู้บริโภคได้ไม่เกินอัตราร้อยละ 5 ต่อปี โดยคำนวณจากยอดเงินที่ผิดนัดชำระ
รองเลขาฯ สคบ.กล่าวว่า โดยประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2565 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ม.ค.2566 ซึ่งจะบังคับใช้เฉพาะสัญญาเช่าซื้อที่ทำตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2566 เป็นต้นไป ส่วนสัญญาเช่าซื้อที่ทำก่อนวันที่ 10 ม.ค.2566 ยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญา.