นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมแนวทางการแก้ไขการโกงน้ำหนักเครื่องชั่งในการรับซื้อสุกร ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กรมปศุสัตว์ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และสมาคมที่เกี่ยวข้องว่า กรมและ บก.ปคบ. ได้จัดตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้น เพื่อรับเรื่องร้องเรียน ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุมผู้ที่กระทำความผิดในการรับซื้อสุกรจากเกษตรกร รวมทั้งร่วมกับกรมการปกครอง สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ช่วยสอดส่องดูแลในพื้นที่ และแจ้งเบาะแสแก๊งมิจฉาชีพตระเวนรับซื้อหมูจากเกษตรกรและโกงตาชั่งเอาเปรียบเกษตรกร โดยเกษตรกรหรือผู้ที่พบเห็นการเอาเปรียบ แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนกรม โทร.1569 หรือสายด่วน บก.ปคบ. โทร.1135
“แก๊งรับซื้อหมูจะตระเวนตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อรับซื้อหมู ที่ชุดเฉพาะกิจเพิ่งพบและจับกุมได้อยู่ที่ จ.อุดรธานี โดยจะใช้กลโกงตาชั่งต่างๆ เช่น หนุนตาชั่ง เหนี่ยวตาชั่ง ทำให้น้ำหนักของหมูน้อยกว่าความเป็นจริง หรือใช้กรงเบามาใส่หมูแล้วชั่ง แต่ก่อนจะชั่ง นำกรงหนัก มาชั่งให้เกษตรกรดูก่อน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ชั่งจริงใช้กรงเบา ซึ่งการโกงทุกรูปแบบ ทำให้น้ำหนักขาดไป 20-30 กิโลกรัม (กก.) บางครั้งเกษตรกรเสียหายรายละ 30,000-40,000 บาท”
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบล่าสุดที่ จ.อุดรธานี จับกุมผู้ที่ฉ้อโกงเกษตรกรได้แล้ว 15 ราย แจ้งความดำเนินคดีและส่งศาลพิจารณาพิพากษาไปแล้ว 2 คดี ลงโทษจำคุก 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา 1 ราย อีก 9 ราย จำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท แต่โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี สำหรับโทษการทำให้เครื่องชั่งแสดงค่าน้ำหนักเอาเปรียบประชาชนและใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบทางการค้า เป็นความผิดตามมาตรา 75 และมาตรา 79 พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 280,000 บาท และจำคุก 3 ปี และปรับ 120,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 มีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปคบ. กล่าวว่า จากการดำเนินการจับกุม พบพฤติกรรม ของผู้ฉ้อโกง คือ จะใช้วิธีการแบ่งงานกันทำ โดยลงพื้นที่สำรวจก่อนล่วงหน้า ดูกิจวัตรประจำวัน ของเกษตรกรว่าแต่ละวันทำอะไร ออกจากบ้านเมื่อไร ไปทำงานกันช่วงไหน แล้วจะนัดวันเข้าไปซื้อ โดยเสนอราคาซื้อสูงกว่าปกติ เช่น กก.ละ 5-10 บาท แต่เมื่อถึงเวลาจะผิดนัด เพื่อให้เหลือแต่ผู้สูงอายุอยู่บ้าน หรือมีคนอยู่บ้านน้อย ก็จะเข้าไปซื้อ และใช้วิธีโกงในรูปแบบต่างๆ ซึ่งล่าสุดจับไปแล้วที่ จ.อุดรธานีและนครพนม และกำลังวางแผนจับกุมที่อื่นอีก โดยเฉพาะในภาคอีสาน.