นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้า) บางแห่ง มีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค เช่น คิดค่าบริการกับลูกค้าที่ชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (หักหัวคิว) หรือมีพฤติกรรมรับแลกเงินสดจากผู้ถือบัตร หรือขายสินค้าไม่ตรงกับราคาป้ายที่แสดง หรือไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งจากการตรวจสอบพบผิดจริง และได้เพิกถอนสิทธิการเป็นร้านธงฟ้าไปแล้วรวม 122 ราย
โดยส่วนใหญ่มีพฤติกรรมรับแลกวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้ จำหน่ายสินค้าให้ผู้ใช้สิทธิคนละครึ่งในราคาสูงกว่าลูกค้าที่ชำระด้วยเงินสด และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ กรณีจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือขายสินค้าราคาสูงกว่าป้าย ฯลฯ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษทั้งจำและปรับ
“กรมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ อย่างต่อเนื่อง และยิ่งช่วงนี้รัฐบาลได้ต่ออายุโครงการช่วยเหลือลดค่าครองชีพต่างๆ ทั้งเพิ่ม เงินผู้ถือบัตรคนจน 200 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ต.ค.65 หรือเพิ่มเป็น 400 หรือ 500 บาทต่อคนต่อเดือน, เพิ่มเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุอีก 50 หรือ 100 บาทต่อเดือน, คนละครึ่งเฟส 5 และเปิดลงทะเบียนโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ปี 65 ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.-19 ต.ค.นี้อีก จึงต้องเร่งเฝ้าระวัง และตรวจสอบร้านธงฟ้าอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เอาเปรียบประชาชน”
นายอาวุธกล่าวว่า ขอฝากถึงร้านค้าที่เข้าร่วม โครงการ อย่าได้มีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะหากถูกร้องเรียนและตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และหากเป็นร้านธงฟ้าจะถูกเพิกถอนสิทธิการเป็นร้านธงฟ้า และถูกตัดสิทธิการรับชำระเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย
หากประชาชนพบเห็นร้านค้ามีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค หรือทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ต่างๆ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรม โทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบผิดจริง
จะดำเนินการตามกฎหมาย และเพิกถอนสิทธิการ เป็นร้านธงฟ้าทันทีโดยไม่กล่าวตักเตือน.