ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกระทรวงการคลัง ได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับ การจัดเก็บภาษีที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินรกร้างว่างเปล่าในพื้นที่กลางเมือง แล้วนำมาปลูกกล้วยปลูกมะนาว เพื่อเลี่ยงการเสียภาษีตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ว่า จะมีประเด็นใดที่จะผ่อนปรน หรือใช้แนวทางใดในการจัดเก็บ เพื่อลดภาระเจ้าของที่ดิน ขณะเดียวกันเพื่อให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าของที่ดินได้ปล่อยที่ดินรกร้างว่างเปล่า เพราะไม่มีเงินลงทุนสร้างที่อยู่ อาศัย และไม่ต้องการขายที่ดินให้นายทุน ส่วนกรณีที่ดินซึ่งเป็นของนายทุน ขณะนี้ยังไม่มีเงินทุนที่จะ นำไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีเงินทุนมาพัฒนา ที่ดิน จึงปล่อยให้เป็นที่ดินว่างเปล่า แต่เมื่อรัฐบาลจะจัดเก็บที่ดิน ทำให้เจ้าของที่ดินหันมาปลูกกล้วย ปลูกมะนาว เพื่อให้เข้านิยามการเสียภาษีเพื่อเกษตรกรรมเพราะเป็นอัตราภาษีที่ต่ำมาก
อย่างไรก็ตาม การหารือระหว่าง กทม.กับกระทรวงการคลังยังไม่มีข้อยุติใดๆ เนื่องจากตามบทบัญญัติของกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น อัตราการจัดเก็บภาษีเป็นอัตราเดียวกันทั่วประเทศ ไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ หากมีการยกเว้นบางพื้นที่ก็จะเกิดคำถามในอีกพื้นที่ว่า เหตุใดไม่ได้รับการยกเว้น หากจะปรับปรุงแก้ไขก็ต้องศึกษารายละเอียดให้รอบด้านและรอบคอบ เพื่อนำเสนอแก้ไขกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินนั้นเป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กทม.และเมืองพัทยา เพราะภาษีที่จัดเก็บได้ ต้องนำไปพัฒนาท้องถิ่น ดังนั้น เจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษีที่ดินต้องพิจารณาตามเจตนาเจ้าของที่ดิน เช่น กรณีทำเกษตรกรรมก็ต้องทำมาอย่างยาวนาน ทำเป็นอาชีพเกษตรกร กรณีนำที่ดินที่ปล่อย ให้รกร้างว่างเปล่ามาหลายปี มาปลูกกล้วย ปลูกมะนาว เพราะต้องการเลี่ยงภาษีที่ดิน ซึ่งประเด็นนี้ เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงด้วยความรอบคอบ.