พรุ่งนี้วันแรก เปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 หรือ บัตรคนจนรอบใหม่ พร้อมคุณสมบัติ ไขข้อสงสัย ผู้ใช้บัตรรอบปัจจุบันใช้สิทธิได้ถึงวันไหน
วันที่ 4 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังและหน่วยงานรับลงทะเบียน จะเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 หรือบัตรคนจนรอบใหม่ ในวันพรุ่งนี้ (5 กันยายน 2565) เป็นวันแรก ไปจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565
โดยสามารถลงทะเบียนได้ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 7 หน่วยงาน ได้แก่
1. สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
2. ธนาคารออมสิน
3. ธนาคารกรุงไทย
4. สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง
5. ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
6. สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต
7. ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา รวมจุดรับลงทะเบียนไม่น้อยกว่า 7,000 จุด ทั่วประเทศ
หรือสามารถลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ในครั้งนี้จะเป็นการลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด
โดยผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่มีการเปิดรับลงทะเบียนยังคงได้รับสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะมีการประกาศให้เริ่มใช้สำหรับผู้ได้รับสิทธิรอบใหม่ รวมถึงขยายเวลาการหมดอายุบนหน้าบัตรฯ ออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบันจะยังคงได้รับสวัสดิการเหมือนเดิม และสามารถใช้สิทธิได้เหมือนเดิมทุกประการ จนกว่าจะมีการประกาศให้เริ่มใช้สวัสดิการสำหรับผู้ ได้รับสิทธิรอบใหม่ ซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง
สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (คลิกที่นี่) สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น.
1. เลือกปุ่มสีเขียว "ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ"
2. คลิกคำว่า "เริ่มลงทะเบียน"
3. กรอกข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชน ได้แก่ ชื่อ สกุล วันเดือนปีเกิด และเลข laser หลังบัตร
4. กรอกข้อมูลผู้ลงทะเบียน ได้แก่ ที่อยู่ วุฒิการศึกษา สถานภาพครอบครัว (หากมีครอบครัว ต้องกรอกข้อมูลสมาชิกในครอบครัว) อาชีพ รายได้ และหนี้สิน
5. ตรวจสอบข้อมูลและกดปุ่ม "ยืนยันข้อมูล"
6. ผู้ลงทะเบียนที่โสด/ไม่มีครอบครัว กดยอมรับเงื่อนไขและยืนยันการลงทะเบียน เพื่อจบขั้นตอนการลงทะเบียน โดยไม่ต้องไปยื่นเอกสารหรือเดินทางไปหน่วยงานรับลงทะเบียน
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่มีครอบครัว มีคู่สมรส (สามีหรือภรรยาที่จดทะเบียนสมรส) และบุตรชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ เฉพาะที่ยังมีชีวิตอยู่ตามข้อมูลของกรมการปกครอง (แต่ไม่รวมบุตรบุญธรรม) เมื่อกรอกข้อมูลทางเว็บไซต์สำเร็จ จะต้องเลือกหน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนสะดวก เพื่อไปยื่นเอกสารที่ลงลายมือชื่อครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ถึงจะถือว่าจบขั้นตอนการลงทะเบียน (หากไม่ได้เดินทางไปยื่นเอกสารที่หน่วยงานรับลงทะเบียน จะถือว่าลงทะเบียนไม่สำเร็จ)
ผู้ลงทะเบียนจะต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนให้ครบถ้วน พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในเอกสารให้ครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อในกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน
อย่างไรก็ดี หากคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัว ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงก็ไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียน ทั้งนี้ แบบฟอร์มการลงทะเบียนสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของโครงการฯ หรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย
สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ทั้งนี้ หนังสือมอบอำนาจสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของโครงการฯ หรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย
หลังจากลงทะเบียนแล้ว ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ทุกวันศุกร์ในแต่ละสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 เป็นต้นไป
หากผู้ลงทะเบียนพบว่า ผลการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์เนื่องจากข้อมูลผู้ลงทะเบียนหรือข้อมูลสมาชิกในครอบครัวไม่ตรงตามฐานข้อมูลกรมการปกครอง ผู้ลงทะเบียนสามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลได้ ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียน
หากเป็นผู้ลงทะเบียนที่ไม่มีครอบครัวที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลได้ ณ หน่วยรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนสะดวก
หากตรวจสอบพบว่าผลการลงทะเบียนสมบูรณ์แล้ว จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนกับหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติต่อไป และจะมีการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติได้ในช่วงเดือนมกราคม 2566 โดยกระทรวงการคลังจะแจ้งวันประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติให้ทราบอีกครั้ง
1. สัญชาติไทย
2. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
3. ต้องไม่เป็น
- ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช
- ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขัง
- บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ
- ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
- ผู้รับบำเหน็จรายเดือนผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
- ข้าราชการการเมือง ส.ส., ส.ว.
4. รายได้ผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนบัตรคนจน 2565 หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่)
- รายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท บุคคล และครอบครัวรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท
5. ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ
- ทรัพย์สินทางการเงินต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท/บุคคล
- ครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท
6. ไม่มีวงเงินกู้ หรือ มีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์
- วงเงินกู้บ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
- วงเงินกู้รถไม่เกิน 1 ล้านบาท
7. ต้องไม่มีบัตรเครดิต
(การตรวจสอบเกณฑ์ครอบครัว หมายถึง การตรวจสอบทั้งของผู้ลงทะเบียนและครอบครัว)
8. ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือ มีกรรมสิทธิ์ ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว
ห้องชุดขนาด ไม่เกิน 35 ตร.ม.
- ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่
- ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
- บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตารางเมตร
- ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่
- ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่จะต้องมีขนาดขึ้นที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ และ ไม่ใช่เพื่อการเกษตรไม่เกิน 1 ไร่
กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว
ห้องชุด
- กรณีเป็นเจ้าของแยกจากกันไม่เกิน 35 ตร.ม.ต่อคน
- กรณีเป็นเจ้าของร่วมกันไม่เกิน 35 ตร.ม.
ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
1. บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถว
- กรณีเป็นจ้าของแยกจากกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.ต่อคน
- กรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.
2. ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่ หรือใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่
จะต้องมีขนาดพื้นที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตรไม่เกิน 20 ไร่ ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง