ครม.เคาะพื้นที่ 1,032 ไร่ ในเมืองการบินภาคตะวันออก เป็นเขตการค้าเสรี (EECa Free Trade Zone) ให้มีนันทนาการ และขายแอลกอฮอล์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 15 ปี และไม่ต้องนำเงินปันผลไปคำนวณเพื่อเสียภาษี เว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว 20,000 บาท/คน/ปี ขยายยกเว้นภาษีอากรและภาษีสรรพสามิตสำหรับของติดตัวผู้เดินทางขาเข้า 200,000 บาท/คน/ปี ในช่วง 10 ปีแรก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการสิทธิประโยชน์ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ : เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เสนอ โดยกำหนดให้ 1,032 ไร่ ในเขตอีอีซีเอ ที่เป็นเขตประกอบการค้าเสรี (EECa Free Trade Zone) โดยในพื้นที่จะมีกิจกรรม และนันทนาการเพื่อรองรับการใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เช่น โรงแรม 5 ดาว ห้างสรรพสินค้าดิวตี้ฟรี ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ งานแสดงสินค้าเพื่อจัดการประชุม และความบันเทิงหลายรูปแบบ เพื่อดึงดูดการใช้จ่ายจากผู้เยี่ยมชมเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มผู้เดินทางพักเครื่อง กลุ่มนักธุรกิจรายใหญ่ และกลุ่มผู้อาศัยในเมืองการบิน โดยจะต้องมีเงื่อนไขพิเศษเพื่อกำหนดความคล่องตัวในการรองรับเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นมหาศาล เช่น สิทธิประโยชน์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม การขอวีซ่า
“ผมคิดว่าอันนี้เป็นเรื่องของปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ อีอีซีนั้นจะเป็นพื้นที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นรากฐานการพัฒนาความเจริญแบบก้าวกระโดดภายในเวลาไม่เกิน 10 ปีนี้ และสร้างชื่อเสียงประเทศไทย ทั้งด้านการเกษตร อุตสาหกรรมสมัยใหม่ คมนาคมขนส่ง นวัตกรรม วิจัย เทคโนโลยีเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (บีซีจี) เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งประเทศไทยและโลกนี้ด้วย”
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เขตประกอบการค้าเสรี จะเป็นเสมือนพื้นที่นอกประเทศ ซึ่งไม่ถูกจำกัดด้วยกฎหมายหลายประการ เป็นการยกระดับสู่การเป็นสนามบินระดับโลกและเป็นศูนย์กลางการบินและโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียนซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยกรมศุลกากร และได้รับการสนับสนุนมาตรการสิทธิประโยชน์ โดย ครม.เห็นชอบ แบ่งเป็น 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ 1.กลุ่มผู้ประกอบกิจการในพื้นที่เมืองการบิน รูปแบบสิทธิประโยชน์ที่สามารถดำเนินการได้ คือ 1.ดำเนินกิจกรรมนันทนาการตลอด 24 ชั่วโมง 2.จำหน่ายแอลกอฮอล์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 3.ตั้งด่านนำเข้าและส่งออกสุราและยาสูบ 4.กำหนดเขตปลอดอากรและจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน 5.การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุดไม่เกิน 15 ปี และยกเว้นให้ไม่ต้องนำเงินปันผลจากการประกอบกิจการไปคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
2.กลุ่มคนทำงาน รูปแบบสิทธิประโยชน์ที่สามารถดำเนินการได้ คือ 1.การผ่อนปรนข้อจำกัดด้านกฎหมายแรงงาน โดยให้คนต่างด้าวทำงานบางประเภทได้ 2.ปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ส่วนสิทธิประโยชน์ที่อยู่ระหว่างการหารือ คือ การปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
3.กลุ่มคนเดินทางและนักท่องเที่ยว รูปแบบสิทธิประโยชน์ที่สามารถดำเนินการได้ คือ การ ยกเว้นภาษีอากรและภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่เมืองการบินในช่วง 10 ปีแรก ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ยังอยู่ระหว่างการหารือ ได้แก่ 1.การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าในพื้นที่ EECa Free Trade Zone รวมไม่เกิน 20,000 บาท/คน/ปี เฉพาะช่วง 10 ปีแรก 2.ขยายการยกเว้นภาษีอากรและภาษีสรรพสามิตสำหรับของติดตัว
ผู้เดินทางระหว่างประเทศขาเข้าให้ครอบคลุมสินค้าที่ซื้อในพื้นที่ EECa Free Trade Zone รวมไม่เกิน 200,000 บาท/คน/ปี เฉพาะช่วง 10 ปีแรก
นอกจากนี้ ที่ประชุมให้ สกพอ.ไปพิจารณาเพิ่มเติม ได้แก่ 1.ควรกำหนดการซื้อหรือปริมาณการนำเข้าสุราและยาสูบที่เหมาะสม เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาการลักลอบนำสินค้าออกมาจำหน่ายนอกพื้นที่เมืองการบิน 2.มาตรการด้านเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยในสนามบินที่จะนำมาใช้ ควรต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA 3.การกำหนดสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบกิจการใน EECa ไม่ให้ซ้ำซ้อนกับที่สำนักงานส่งเสริมการลงทุนให้การส่งเสริม 4.ควรพิจารณาความจำเป็นในการผ่อนผันข้อจำกัดทางกฎหมายให้คนต่างด้าวสามารถทำงานที่ไทยไม่ได้ขาดแคลนหรือขาดทักษะ เช่น งานแกะสลักไม้ งานตัดผม งานเสริมสวย และงานขายของหน้าร้าน.