ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหลายราย โดยเฉพาะสินค้าที่กรมการค้าภายในติดตามดูแลกว่า 200 รายการ และสินค้าควบคุมภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ที่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาขายได้ตามต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เพราะกระทรวงพาณิชย์ขอให้ตรึงราคาขายมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนนั้น พบว่าได้มีการใช้กลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือปรับสูตรผลิตภัณฑ์เดิมเล็กน้อย เพื่อให้ขายได้ในราคาที่สูงขึ้น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สบู่ แชมพูสระผม โลชันทาผิว ฯลฯ หรือลดขนาดแต่ขายราคาเดิมเช่น ยาสีฟัน ซึ่งกรณีการลดขนาดแต่ขายราคาเดิมถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนอย่างมาก
ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีผู้ผลิตสินค้าแจ้งกรมเพื่อขอออกผลิตภัณฑ์ใหม่และตั้งราคาขายใหม่เข้ามาต่อเนื่อง แต่ก่อนที่กรมจะอนุญาตจะพิจารณาโครงสร้างต้นทุนอย่างละเอียด รวมถึงพิจารณาว่า ราคาขายที่เสนอมานั้นสอดคล้องกับต้นทุนหรือไม่ ถ้าเห็นว่ามีการปรับปรุงสูตรใหม่จริงๆ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่และราคาขายสอดคล้องกับต้นทุนจริงก็จะอนุญาตให้ขายได้ตามราคาที่เสนอ แต่ถ้าพบว่าราคาที่ขอมาไม่เหมาะสม ไม่สอดคล้องกับต้นทุนหรือสูงเกินไปจะแนะนำให้ขายตามราคาที่เหมาะสมมากกว่า การลดขนาดสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญต้องแจ้งกรมก่อนการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว และกรณีที่ผู้ผลิตแจ้งขอลดขนาดก็ต้องลดราคาขายด้วยไม่ใช่ยังขายราคาเดิม หากพบว่ายังขายราคาเดิม ไม่ลดราคาให้สอดคล้องกับขนาดที่ลด มีความผิดมีโทษทั้งจำและปรับ ถ้าผู้บริโภคพบเห็นกรณีดังกล่าวร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน 1569 กรมจะเชิญมาชี้แจงโครงสร้างต้นทุน ถ้าชี้แจงไม่ได้ จะถือว่าขายราคาแพงเกินสมควร มีโทษตามกฎหมาย.