กินนมสด-นมขวดจ่ายเพิ่มกระเป๋าเบา “จุรินทร์” สั่งรับมือม็อบโคนม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในรายงานข้อมูลและรายละเอียดโครงสร้างต้นทุนของสินค้านมและผลิตภัณฑ์ เพื่อนำมาพิจารณาโครงสร้างต้นทุนที่แท้จริง หลังจากที่มีข่าวว่าประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด ได้ทำหนังสือด่วนถึงสมาชิกชุมนุมสหกรณ์โคนมทั่วประเทศ นัดรวมตัวกันเทน้ำนมดิบทิ้งที่กระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เพื่อเร่งรัดให้อนุมัติการปรับขึ้นราคาขายนมและผลิตภัณฑ์โดยเร็ว

ทั้งนี้ คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ที่มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 1 ก.ค.65 ได้อนุมัติ การปรับขึ้นราคารับซื้อน้ำนมดิบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมหลังจากต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยให้ปรับขึ้นราคารับซื้อหน้าศูนย์รวบรวมนมดิบเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 19.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น กก.ละ 2.25 บาท และปรับขึ้นราคารับซื้อหน้าโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม เป็น กก.ละ 20.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น กก.ละ 1.50 บาท แต่รัฐจะจ่ายชดเชยให้ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ กก.ละ 0.75 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ส่งผลให้ผู้ผลิตนมและผลิตภัณฑ์ต้องรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรเพิ่ม กก.ละ 1.50 บาท

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นราคาดังกล่าวจนถึงขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น โดยล่าสุดยังอยู่ระหว่างเวียนมติที่ประชุมมิลค์บอร์ดให้กรรมการรับรอง จากนั้นจึงจะทำเอกสารเสนอให้ ครม.พิจารณา และหลังจาก ครม.เห็นชอบ แล้ว กระทรวงพาณิชย์จึงจะอนุมัติปรับราคา เพราะผลิตภัณฑ์นม ทั้งนมผง นมน้ำ (นมกล่อง นมขวด มีทั้งชนิดนำนมผงมาละลายน้ำ และชนิดที่ผลิตจากน้ำนมโคสด) เป็นสินค้าควบคุมมาตั้งแต่ปี 42 การขึ้นราคาต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์

ขณะที่จากการสอบถามผู้ผลิตนมและผลิตภัณฑ์รายหนึ่ง พบว่าหากจะต้อง เพิ่มราคารับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรสูงถึง กก.ละ 2.25 บาท จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกอีก 5 บาทต่อผลิตภัณฑ์ เช่น นมสด ขนาด 200 ซีซี ที่ปัจจุบัน ขายขวดละ 13 บาท ขึ้นเป็นขวดละ 18 บาท เป็นราคาที่สูงเกินไป ผู้บริโภค รับไม่ได้แน่นอน แต่ยังดีที่ภาครัฐยอมชดเชยให้ศูนย์รวบรวมนมดิบ กก.ละ 0.75 บาท เป็นเวลา 3 เดือน จึงคาดว่าจะปรับขึ้นราคาขายปลีกเพียง 2 บาท เช่น ขวดละ 13 บาท ปรับขึ้นเป็นขวดละ 15 บาท เชื่อว่าผู้บริโภคยังพอรับได้.