ล่มหรือไปต่อ “SCBX ซื้อบิทคับ”

8 เดือนหลังประกาศเข้าซื้อกิจการบิทคับ ออนไลน์ ผู้ให้บริการกระดานซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีอันดับ 1 ของประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2564

ในที่สุด “เอสซีบี เอกซ์” หรือ SCBX ยานแม่ของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2565 ขอขยายเวลาการทำธุรกรรมการลงทุนเข้าไปถือหุ้น 51% ในบิทคับ ออนไลน์ มูลค่า 17,800 ล้านบาท ออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนดสิ้นสุด

ตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา กระบวนการ “ดิวดิลิเจนซ์” (Due Diligence) หรือการสำรวจตรวจสอบ ประเมินมูลค่าธุรกิจของกันและกัน ก่อนจ่ายเงินซื้อหุ้น ดำเนินไปด้วยความยากลำบาก

ทำให้ยังไม่สามารถปิดดีลซื้อขายหุ้นได้ จนเกิดกระแสในแวดวงการเงินต่างๆนานา อาทิ เอสซีบี เอกซ์เทกระจาดบิทคับเสียแล้ว ดีลนี้ล้มในที่สุด ขณะที่บางกระแสยังเชื่อมั่นว่าเอสซีบี เอกซ์ จะเดินหน้าต่อ ปิดดีลได้แน่นอน

มองย้อนกลับไป ธุรกิจคริปโตฯที่มีอัตราเติบโตก้าวกระโดด ช่วง 4-5 ปีย้อนหลัง เป็นช่วงที่ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำติดดิน หรือบางประเทศมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ เป็นผลจากประเทศมหาอำนาจแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมใจกันอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจนเกิดภาวะสภาพคล่องล้นโลก

ตามวัฏจักรการลงทุน ผู้มีเงินออมต้องมองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ก่อให้เกิดยุคทองของคริปโตฯ คนที่เข้าไปลงทุนรวยขึ้นในพริบตา เกิดเศรษฐีสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมากมาย

เอสซีบี เอกซ์ ก็ ไม่ต่าง ในฐานะองค์กรภาคเอกชน ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนรับกระแสโลกการเงินยุคใหม่ มุ่งไปสู่ยุคดิจิทัล ย่อมมองเห็นธุรกิจคริปโตฯเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้ในอนาคต

จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการมองหาหรือต้องการมีกระดานซื้อขายคริปโตฯเป็นของตัวเอง เพื่อให้บริการธุรกิจคริปโตฯ แบบครบวงจร ประกอบกับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก ตอบโจทย์ความต้องการเอสซีบี เอกซ์ นำมาต่อยอดธุรกิจได้ทันที

จากที่บิทคับ ออนไลน์เติบโตแบบก้าวกระโดด สร้างกำไรให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว พอเอสซีบี เอกซ์ ประกาศเข้าไปเทกโอเวอร์มูลค่าก็ยิ่งเพิ่มพรวดพราด ราคาหุ้นที่ตกลงซื้อกันไว้ ซึ่งแน่นอนต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้เอสซีบี เอกซ์ มีกำไรทันทีแม้การซื้อขายยังไม่เสร็จสิ้น

แต่สาเหตุที่ดีลยังปิดไม่ลง การทำ Due Diligence ลากยาว เนื่องจากคริปโตฯเป็นธุรกิจเกิดใหม่ในประเทศไทย
ยังไม่มีกฎกติกาการควบคุมที่ชัดเจน ว่ากันว่าขั้นตอนในการทำ Due Diligence ของดีลนี้จึงสะดุดเป็นพักๆ ต้องสอบถามไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในฐานะผู้ควบคุม ว่าธุรกรรมไหนทำได้ ธุรกรรมประเภทไหนห้าม เพื่อขอความชัดเจน

ขณะที่ตลาดคริปโตฯ จากเดิมที่เคยเป็นยุคทอง เมื่อเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาพลังงานสูงขึ้น เกิดภาวะราคาน้ำมันแพง สินค้าขึ้นราคา ทำให้เงินเฟ้อทั่วโลกปรับสูงขึ้นทั่วโลก ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด มุ่งมั่นที่จะคุมเงินเฟ้อ ด้วยการใช้นโยบายการเงิน ปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างร้อนแรง

เป็นเหตุให้เงินลงทุนจากทั่วโลก รวมทั้งในตลาดคริปโตฯ ไหลกลับไปยังสหรัฐฯ เพื่อรับผลตอบแทนที่สูงกว่าจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย และมีความเสี่ยงต่ำ กระทบชิ่งตลาดคริปโตฯที่เคยร้อนแรง ถูกแห่เทขาย คริปโตฯบางตัวถูกเทขาย ราคาลดลงมากกว่า 70% นักลงทุนขาดทุนยับเยิน วอลุ่มซื้อขายในแต่ละวันเบาบาง

นอกจากนั้น ปมใหญ่ที่สำคัญอีกประการ คือกรณี ก.ล.ต. มีบทลงโทษบิทคับ ออนไลน์ สั่งปรับ 24.16 ล้านบาท หลังพบว่ามีการสร้างมูลค่าการซื้อขายเทียมในกระดานซื้อขายของบิทคับ มีการจับคู่ซื้อขายกันเอง มีผู้กระทำผิด 3 ราย ได้แก่ บริษัท บิทคับ นายอนุรักษ์ เชื้อชัย (Market Maker) ร่วมกันในการส่งคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล และนายสกลกรย์ สระกวี ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้มีอำนาจ

และยังมีกรณีที่ ก.ล.ต.สั่งปรับบิทคับ ออนไลน์และกรรมการ 5 คน รายละ 2.53 ล้านบาท กรณีการคัดเลือก Bitkub Coin หรือเหรียญ KUB เข้าซื้อขายในศูนย์ซื้อขายโดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกและเพิกถอนสินทรัพย์ดิจิทัล

และล่าสุด ก.ล.ต.ยังสั่งให้บิทคับ ออนไลน์ แก้ไขปัญหาภายใน อาทิ ระบบสารสนเทศ ระบบการปฏิบัติงาน ที่ยังไม่รัดกุมเพียงพอ!!!

แม้สารพันปัญหาถาโถม แต่ลึกสุดใจ...เอสซีบี เอกซ์ ยังไม่น่าหันหลังกลับ เพียงแต่กำลังให้เวลาบิทคับ ออนไลน์เคลียร์ปัญหากับ ก.ล.ต.ให้จบ เพราะการทำธุรกิจต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์และสิ่งที่สำคัญต้องมีธรรมาภิบาล.

ประพัฒน์ เนตรอัมพร