ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ริเริ่มทำโครงการต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระฯ โดยร่วมกับจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่นและกาฬสินธุ์ กรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด เพื่อสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในยุควิกฤติเศรษฐกิจและได้รับความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ที่ทันสมัยได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ พร้อมกับการช่วยชาติลดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนไปพร้อมกัน
นายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ กล่าวกับเกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรมการหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดในโครงการต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จังหวัดอุดรธานีว่า จากการวิเคราะห์คาดการณ์ว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งกำลังขาดแคลนมากในเวลานี้ทั้งตลาดในประเทศไทยและตลาดโลก จะทำให้ข้าวโพดมีราคาสูงขึ้นอีกมาก สถาบันฯจึงแนะนำให้เกษตรกรทดลองปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ก่อนฤดูการทำนา โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย สารกำจัดศัตรูพืช การสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย เช่น โดรนพ่นยา เครื่องหยอดเมล็ด เครื่องหยอดปุ๋ย การดูแลแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการผลิต และความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ จากการปลูกแบบเดิมที่จะได้ผลผลิต 700-800 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 1,300 กิโลกรัมต่อไร่ พร้อมทั้งหลักประกันในการเข้ามารับซื้อถึงแปลง และการกำหนดราคารับซื้อขั้นต่ำที่แน่นอน จะทำให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่าเมื่อเข้าร่วมโครงการแล้วจะมีรายได้ที่น่าพอใจและมากกว่าพืชอื่น
“โครงการต้องขอความร่วมมืองดการเผาตอซังข้าวโพด ที่จะทำให้เกิดมลพิษในอากาศและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยหันมาไถกลบให้เกิดกระบวนการย่อยสลาย กลายเป็นธาตุอาหารในดินสำหรับพืชต่อไป รวมทั้งต้องปลูกในพื้นที่ที่ถูกกฎหมายและไม่ใช้สารเคมีในพื้นที่ต้นน้ำด้วย ทั้งนี้ ปิดทองหลังพระฯ จะทําหน้าที่ประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนราชการ เอกชนและเกษตรกรมาร่วมกันดำเนินงานโครงการนี้ เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์มากที่สุด”.