ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา ทั้งวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ที่พุทธศาสนิกชนออกมาเลือกซื้อสินค้าชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม และเทียนพรรษานำไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์นั้น ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ 15 ชุดออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายเพิ่มเติมจากที่ได้ตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว และกำชับให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน โดยกรณีที่เป็นชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมต้องแสดงราคาจำหน่ายปลีก พร้อมทั้งแสดงรายการสินค้า ขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุและราคาของสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในชุดสังฆทาน หรือ ชุดไทยธรรม รวมทั้งค่าภาชนะบรรจุด้วย และต้องมีขนาดตัวอักษรและตัวเลข (FONT) ตั้งแต่ขนาด 16 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า และต้องจำหน่ายตรงตามราคาที่แสดง นอกจากนี้ได้กำชับไม่ให้ฉวยโอกาสปรับขึ้นที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในช่วงหลายวันที่ผ่านมา รวมทั้งการตรวจสอบ ณ ร้านจำหน่ายสังฆภัณฑ์ บริเวณหน้าวัดลาดปลาเค้า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. พบว่าชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรมส่วนใหญ่มีราคาทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน และมีราคาที่หลากหลายให้เลือกตามความต้องการตั้งแต่ชุดละ 49-1,500 บาท ส่วนราคาเทียนพรรษาจำหน่ายแพ็คคู่ คู่ละ 69-3,000 บาท และแบบต้น ต้นละ 240-1,700 บาท
“ชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม สินค้าอุปโภคบริโภคมีให้เลือกหลายแบบหลายราคา จึงแนะนำให้ประชาชนเปรียบเทียบราคาและคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการ ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรม โทร.1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”.