นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้รับทราบความคืบหน้า 4 โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดย 2 โครงการแรกที่จะออกหนังสือส่งมอบที่ดินให้เอกชนที่ชนะการประมูลในโครงการ (NTP) เพื่อเริ่มก่อสร้างเดือน ต.ค.นี้ ได้แก่ 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ซึ่งส่งมอบพื้นที่ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา งานสาธารณูปโภครื้อเสร็จแล้ว และการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) ได้พื้นที่ครบ 100% คาดจะเปิดบริการปี 69
2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่กองทัพเรือได้ออกแบบทางวิ่งที่ 2 เสร็จแล้ว งานปรับถมดินลานจอดศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานแล้วเสร็จ 100% และงานปรับถมดินทางวิ่งที่ 2 ก้าวหน้าเกิน 80% ส่วนรายงานการประเมินผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชน (EHIA) ผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว และเตรียมประชาพิจารณ์เดือน ส.ค.นี้ และการปรับปรุงรายงานเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดือน ก.ย.65 โดยการก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 คาดจะเสร็จปี 68 ทั้งนี้ รัฐบาลอาจจัดงานคิกออฟทั้ง 2 โครงการพร้อมกัน เพื่อให้เห็นถึงความคืบหน้าที่สำคัญ สำหรับโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เริ่มงานออกแบบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และงานออกแบบท่าเรือก๊าซแล้ว ขณะนี้เริ่มก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และช่วงงานถมทะเล คาดจะเสร็จปี 69 ส่วนโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เริ่มก่อสร้างงานทางทะเล และจัดทำ EHIA สำหรับท่าเทียบเรือ F จะอนุมัติในเดือน ส.ค. 66 คาดจะเปิดบริการได้ปี 68 นอกจากนี้ ได้เห็นชอบโครงการใหม่ ได้แก่ การผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล 2 แห่ง ได้แก่ นิคมฯมาบตาพุด และเมืองพัทยา ฯลฯ ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาวาระลับเรื่องการสรรหาเลขาธิการ สกพอ. เนื่องจากนายคณิศจะสิ้นสุดสัญญาดำรงตำแหน่งวันที่ 17 ส.ค.นี้ ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการสรรหา มีปลัด กระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยนายกฯสั่งการให้รายงานความคืบหน้า และรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาให้ที่ประชุมครั้งต่อไปรับทราบ และการคัดเลือกเลขาฯอีอีซี จะใช้มติของ กพอ. ส่วนการต่ออายุนายคณิศนั้น นายคณิศจะทำงานได้ถึงเดือน พ.ค.66 เนื่องจากอายุครบ 65 ปี.