รับอานิสงส์เปิดประเทศ ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นในรอบ 6 เดือน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รับอานิสงส์เปิดประเทศ ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นในรอบ 6 เดือน

Date Time: 8 ก.ค. 2565 05:15 น.

Summary

  • หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. 65 เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด เปิดประเทศ ธุรกิจกลับมาเปิดปกติ แต่คนยังกังวลราคาน้ำมัน ราคาสินค้า

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. 65 เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด เปิดประเทศ ธุรกิจกลับมาเปิดปกติ แต่คนยังกังวลราคาน้ำมัน ราคาสินค้า และค่าครองชีพสูง ส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดเติบโต 3.1% อานิสงส์เปิดประเทศ ค่าเงินอ่อนดันส่งออกโต นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 6-8 ล้านคน ราคาสินค้าเกษตรสูง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย.65 อยู่ที่ระดับ 41.6 เพิ่มขึ้นจาก 40.2 ในเดือน พ.ค.65 เป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เพราะผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย จากสถานการณ์โควิดและมาตรการผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้ รวมถึงธุรกิจกลางคืนกลับมาเปิดปกติ ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้น แม้จะมีความกังวลราคาน้ำมัน ราคาสินค้า และค่าครองชีพที่สูงขึ้น, การระบาดของโควิดที่ยังมีอยู่, ความกังวลผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า และค่าเงินบาทอ่อนค่า

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 35.7 เพิ่มจาก 34.3, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 39.2 เพิ่มจาก 37.8 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 49.8 เพิ่มจาก 48.5 แสดงว่าผู้บริโภคเริ่มเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว แต่ดัชนีความเชื่อมั่นยังต่ำกว่าระดับปกติที่ 100

สำหรับปัจจัยบวกที่ทำให้ดัชนีเพิ่มขึ้น ได้แก่ รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ, การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของทั้งโลกเพิ่มขึ้น, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 65 เป็น 3.3% จากเดิม 3.2%, การส่งออกเพิ่มขึ้น และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น

“การที่ดัชนีความเชื่อมั่นดีขึ้นทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภค เริ่มกลับมาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น แต่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือไม่ เพราะผู้บริโภคยังมีกังวลโควิด ปัญหาค่าครองชีพสูง ส่งผลให้ระมัดระวังใช้จ่าย เพราะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมากและเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ตาม หากความเชื่อมั่นฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดว่าเศรษฐกิจไทย จะเริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ โดยผู้บริโภคจะกลับมาบริโภคโดดเด่นขึ้นในปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นต้นไป”

นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวปลายไตรมาส 3 เป็นต้นไป เพราะคาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยครึ่งปีหลัง 6-8 ล้านคน มีเงินไหลเข้ามามากขึ้น, ค่า เงินบาท ที่อ่อนค่าช่วยผลักดันให้การส่งออกปีนี้ขยายได้ 5-6% ประกอบกับการเปิดธุรกิจกลางคืน ที่คาดจะเกิดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่าเดือนละ 50,000 ล้านบาท อีกทั้งปลายไตรมาส 3 เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ทำให้มีเงินสะพัดในต่างจังหวัด และปัจจัยเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 โตได้ 4.1% ไตรมาส 4 โตได้ 3.8% และทั้งปีนี้โตได้ 3.1% หรืออยู่ในกรอบ 2.5-3.5%
ส่วนการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศลิตรละ 3 บาทนั้น จะทำให้คนออกมาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว 5 วันในสัปดาห์หน้า ซึ่งศูนย์เคยประเมินว่า ทุกๆ 1 บาทของราคาน้ำมันเบนซิน จะมีผลต่อจีดีพี 0.1% ถ้าปรับลงลิตรละ 3 บาท จะทำให้คนไทยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเบนซินได้ถึงวันละ 90 ล้านบาทจากปริมาณการใช้ที่วันละ 30 ล้านลิตร หรือประหยัดได้เดือนละ 2,700 ล้านบาท ถ้าลดได้ยาวถึง 6 เดือนจะประหยัดได้ถึง 17,000 ล้านบาท ช่วยดึงจีดีพีให้เพิ่มขึ้นได้ 0.15%.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ