กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือนพ.ค. 65 มีผู้ประกอบการขอเลิกกิจการ 1,102 ราย ส่วนต่างชาติขออนุญาตประกอบธุรกิจ 41 ราย ญี่ปุ่นยืนหนึ่ง ตามด้วยสิงคโปร์ และสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 65 นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถิติการจดทะเบียนธุรกิจในเดือน พ.ค. 65 มีดังนี้ ธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,917 ราย เพิ่มขึ้น 6% จากเดือนเดียวกันปีก่อนที่มี 5,568 ราย และเพิ่มขึ้น 541 ราย จากเดือนก่อนหน้า หรือคิดเป็น 10% ส่วนมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 14,357.13 ล้านบาท ลดลง 33% จากเดือนเดียวกันปีก่อนที่มีทุนจดทะเบียน 21,513 ล้านบาท
สำหรับประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 543 ราย คิดเป็น 9%
2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำนวน 382 ราย คิดเป็น 6%
3. ธุรกิจภัตตาคาร และร้านอาหารจำนวน 225 ราย คิดเป็น 4%
ในส่วนของธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่
- ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,111 ราย คิดเป็น 69.48%
- ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,726 ราย คิดเป็น 29.17%
- ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 69 ราย คิดเป็น 1.17%
- ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 11 ราย คิดเป็น 0.18% ตามลำดับ
ธุรกิจเลิกกิจการ
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 1,102 ราย เพิ่มขึ้น 39% จากเดือนเดียวกันในปี 64 ที่มี 792 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 3,760.77 ล้านบาท
โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 141 ราย คิดเป็น 13%
2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 52 ราย คิดเป็น 5%
3. ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 36 ราย คิดเป็น 3%
สำหรับธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่
- ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 819 ราย คิดเป็น 74.32%
- ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 233 ราย คิดเป็น 21.14%
- ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 42 ราย คิดเป็น 3.81%
- ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 8 ราย คิดเป็น 0.73% ตามลำดับ
สำหรับธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ วันที่ 31 พ.ค. 65 ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 837,840 ราย มูลค่าทุน 20.03 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น
- ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,250 ราย คิดเป็น 24.14%
- บริษัทจำกัด จำนวน 634,245 ราย คิดเป็น 75.70%
- บริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,345 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน
- ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 496,968 ราย คิดเป็น 59.32% รวมมูลค่าทุน 0.43 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.15%
- ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 249,016 ราย คิดเป็น 29.72% รวมมูลค่าทุน 0.84 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.19%
- ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 74,998 ราย คิดเป็น 8.95% รวมมูลค่าทุน 2.06 ล้านล้านบาทคิดเป็น 10.28%
- ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,858 ราย คิดเป็น 2.01% รวมมูลค่าทุน 16.70 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.38%
นอกจากนี้ช่วง 5 เดือนแรกของปี 65 (ม.ค. - พ.ค.) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้นจำนวน 237 ราย เพิ่มขึ้น 6% เงินลงทุน 55,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก
1. ญี่ปุ่น 12 ราย เงินลงทุน 14,440 ล้านบาท
2. สิงคโปร์ 10 ราย เงินลงทุน 1,653 ล้านบาท
3. สหรัฐอเมริกา 5 ราย เงินลงทุน 458 ล้านบาท