มหัศจรรย์เศรษฐกิจไทย ฟิทช์ให้ BBB+ มีเสถียรภาพ

ไม่เรียกว่ามหัศจรรย์ ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร เมื่อ คุณแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แถลงผลการจัดอันดับ ความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) จาก บริษัท Fitch Rating (Fitch) ว่า ได้ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับ มีเสถียรภาพ (Stable) โดยมีรายละเอียดว่า ภาคการคลังสาธารณะมีความเข้มแข็ง สัดส่วนหนี้ภาครัฐบาลต่อจีดีพีปี 2565 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 55.4% โดยจะสูงขึ้นเป็น 56.6% ต่อจีดีพีในปี 2569 อย่างไรก็ดี รัฐบาลไทยจะสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงของหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี

ฟิทช์ ยังคาดว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยจะขยายตัวได้ที่ 4.5% เนื่องจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและการกลับมาของนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 6.5 ล้านคนในปี 2565 เป็น 22 ล้านคนในปี 2566

ตัวเลข หนี้สาธารณะของรัฐบาล ที่ ฟิทช์ เรทติ้ง บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือยักษ์ใหญ่ของโลก นำไปใช้ในการวิเคราะห์ “ถูกต้องหรือไม่” ผมไม่อาจทราบได้ แต่ผมมีข้อมูลจาก การประชุม ครม.วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา คุณธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.รับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 อยู่ที่ 9.95 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.58% ของจีดีพีที่ระดับ 16.4 ล้านล้านบาท โดยยังอยู่ใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังไม่เกิน 70%

จากวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ ครม.รับทราบว่า หนี้สาธารณะอยู่ที่ 60.58% ผ่านไปเพียง 21 วัน วันที่ 21 มิถุนายน คุณแพตริเซีย แถลงผลการจัดอันดับเครดิตประเทศไทยปี 2565 ของ ฟิทช์ เรทติ้ง กลับปรากฏว่า หนี้สาธารณะของไทยปี 2565 อยู่ที่ 55.4% ของจีดีพี หนี้หายไปไหนตั้ง 5.18% ซึ่งคิดจากมูลค่าจีดีพีก็สูงกว่า 849,000 ล้านบาท และฟิทช์ เรทติ้ง ยังคาดว่า หนี้สาธารณะของรัฐบาลในปี 2569 (อีก 4 ปี) จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 56.6% มันจะเป็นไปได้หรือ?

ผมคิดว่า คุณแพตริเซีย คงต้องไปเคลียร์ตัวเลขหนี้สาธารณะกับ ฟิทช์ เรทติ้ง ให้เกิดความชัดเจน มิฉะนั้นจะเกิดความสับสนต่อนักลงทุน หนี้สาธารณะของรัฐบาลไทยมีเท่าไหร่กันแน่ 60.58% ของจีดีพีตามที่รายงาน ครม. หรือ 55.4% ตามที่ ฟิทช์ เรทติ้งใช้อ้างอิง ซึ่งจะมีผลทำให้ อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงจาก BBB+ ก็เป็นไปได้

วันเดียวกันกับที่ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ แถลงผลการจัดอันดับเครดิตประเทศไทยของฟิทช์ เรทติ้ง คุณดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ไปปาฐกถาในงาน Stronger Thailand ว่า สศช.ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวได้ประมาณ 2.5–3.5% มีค่ากลางอยู่ที่ 3% โดยได้มีการหารือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย และ กระทรวงการคลัง ว่า สมมติฐานการขยายตัวของเศรษฐกิจในระดับ 3% ในปีนี้ ยังมีความเป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยที่กระทบเศรษฐกิจ เช่น เรื่องของเงินเฟ้อ เรื่องของราคาพลังงาน อย่างไรก็ตามทุกหน่วยงานมีความเห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3% ซึ่งเป็นตัวเลขจีดีพีที่ต่ำกว่าของ ฟิทช์ เรทติ้ง ที่คาดว่า เศรษฐกิจประเทศไทยจะขยายตัวที่ 4.5% ต่างกันถึง 1.5% ถือว่าแตกต่างกันสูงมากทีเดียว

ส่วนปีหน้า 2566 คุณดนุชา กล่าวว่า สศช.คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.7% ต่ำกว่าสำนักเศรษฐกิจอื่นๆ ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เฉลี่ย 4.3-4.5%

ตัวเลขไหนถูกต้อง ผมคิดว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และ ฟิทช์ เรทติ้ง ต้องไปเคลียร์ออกมาให้ชัดเจน เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนในไทยโดยตรง.

“ลม เปลี่ยนทิศ”